-
ระบบนิเวศ :
-
In open space area, dry evergreen and mixed deciduous forests, 50-1,250 m alt., also cultivated throughout Thailand.
-
ชอบขึ้นตามที่ลุ่ม ปลูกได้ทุกฤดู
-
การกระจายพันธุ์ :
-
India, Bangladesh, Myanmar, S China, Laos, Vietnam, Cambodia, Peninsular Malaysia, Singapore, Sumatra, Java, Borneo, Philippines.
-
ในประเทศไทย พบส่วนใหญ่เป็นพืชปลูก และพบตามธรรมชาติในปา่ ทุง่ หญา้ หรือป่าเบญจพรรณที่ระดับ 100 - 1,300 ม. จากระดับนํ้าทะเล ต่างประเทศพบบริเวณจีน อินเดีย บังกลาเทศ พม่า เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
-
พืชชนิดนี้มีพบได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ที่ความสูงตั้งแต่ระดับน้ำทะเลจนถึง 1,300 เมตร ออกดอกตลอดปี ในต่างประเทศพบที่จีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ ชวา บอร์เนียว ภูมิภาคอินโดจีน และเป็นพืชที่ปลูกทั่วไปในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
-
ในประเทศไทย พบส่วนใหญ่เป็นพืชปลูก และพบตามธรรมชาติในปา่ ทุง่ หญา้ หรือป่าเบญจพรรณที่ระดับ 100 - 1,300 ม. จากระดับนํ้าทะเล ต่างประเทศพบบริเวณจีน อินเดีย บังกลาเทศ พม่า เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
-
ในประเทศไทย พบส่วนใหญ่เป็นพืชปลูก และพบตามธรรมชาติในปา่ ทุง่ หญา้ หรือป่าเบญจพรรณที่ระดับ 100 - 1,300 ม. จากระดับนํ้าทะเล ต่างประเทศพบบริเวณจีน อินเดีย บังกลาเทศ พม่า เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
-
ในประเทศไทย พบส่วนใหญ่เป็นพืชปลูก และพบตามธรรมชาติในปา่ ทุง่ หญา้ หรือป่าเบญจพรรณที่ระดับ 100 - 1,300 ม. จากระดับนํ้าทะเล ต่างประเทศพบบริเวณจีน อินเดีย บังกลาเทศ พม่า เวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย
-
ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่าข่ามีต้นกำเนิดมาจากไหน แต่จากรายงานที่เก่าที่สุดพบมาจากตอนใต้ของจีนและชวา ปัจจุบันเป็นพืชปลูกหรือยังกึ่งพืชป่าในชนบทของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในอินเดีย บังคลาเทศ จีน และสุรีนาม
-
แหล่งที่พบภายในประเทศ :
-
ChiangMai,Lampang,Phitsanulok,Phetchabun,Loei,UbonRatchathani,Kanchanaburi,Chanthaburi,SuratThani,Phangnga,Songkhla,Yala
-
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
-
ส่วนเหนือดินสูง 100 - 200 ซม. ใบรูปหอกแกม รูปขอบขนาน แผ่นใบเกลี้ยง มีขนบริเวณขอบใบ ช่อดอกออกกลางกลุ่มใบ กลีบเลี้ยงสีเขียวอ่อน กลีบดอกสีขาวหรือเหลืองอ่อน กลีบสเตมิโนดยาวเรียว สีขาวมีเส้นสีแดง กลีบปากสีขาวมีเส้นสีแดง ผลกลม ผลสุกสีส้มหรือแดง
-
ไม้ล้มลุกอายุหลายปี เหง้าขนาดใหญ่ ค่อนข้างแข็งและเหนียว สีขาวหรือสีเหลืองอ่อน เส้นผ่านศูนย์กลาง 2-3.5 เซนติเมตร มีลำต้นเทียมที่เกิดจากกาบใบเรียงสลับซ้อนกันแน่นและชูเหนือดินสูง 1.5-3 เมตร และขึ้นรวมเป็นกอ ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปขอบขนาน กว้าง 6-11 เซนติเมตร ยาว 25–60 เซนติเมตร ปลายเป็นติ่งหนาม โคนรูปลิ่ม ขอบเรียบ บางใส เส้นกลางใบด้านบนเป็นร่อง แผ่นใบเกลี้ยง ยกเว้นบริเวณของเส้นกลางใบ มีขนสั้น ก้านใบยาวประมาณ ๑ เซนติเมตร ด้านล่างมีขนเล็กน้อย ลิ้นใบรูปสามเหลี่ยม กว้างประมาณ 4 มิลลิเมตร ยาวประมาณ ๗ มิลลิเมตร มีขนเล็กน้อย ช่อดอก แบบช่อแยกแขนง ออกที่ยอด ยาวได้ถึง 30 เซนติเมตร ประกอบด้วยช่องวงแถวเดี่ยว มีดอก 4-5 ดอก เรียงห่าง ๆ อยู่บนแกนช่อ ใบประดับเป็นรูปใบหอกแคบถึงรูปใบหอกแกมรูปขอบขนาน บางคล้ายเยื่อ กว้าง 2-4 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร (อาจารย์ชยันต์จะตรวจสอบขนาดให้) ร่วงง่าย ใบประดับย่อยรูปใบหอก ลักษณะคล้ายใบประดับแต่ขนาดเล็กกว่า ยาว 5-8 มิลลิเมตร ดอก รูปสามเหลี่ยม กลิ่นหอมอ่อน กลีบเลี้ยงสีขาว โคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด กว้างประมาณ 3 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ปลายแยกเป็น 3 แฉก รูปสามเหลี่ยม ไม่เท่ากัน แฉกบน 2 แฉก ยาวประมาณ 3 มิลลิเมตร แฉกล่างยาวประมาณ 1 มิลลิเมตร กลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาวประมาณ 1 เซนติเมตร ปลายแยกเป็น 3 แฉก สีเขียวอ่อนปลายขาว ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร แฉกบนรูปขอบขนานแคบ กว้างประมาณ 7 มิลลิเมตร ยาว 2.2-2.5 เซนติเมตร ปลายคุ่ม ขอบกลีบบาง มีขน ด้านในเกลี้ยง แฉกข้าง 2 แฉก รูปขอบขนานแคบกว่าเล็กน้อย ปลายแหลมคุ่ม กว้างประมาณ 6 มิลลิเมตร ยาวประมาณ 2.2 เซนติเมตร โคนกลีบด้านล่างเชื่อมกับโคนกลีบปากประมาณ 6 มิลลิเมตร เกสรเพศผู้ที่เป็นหมันบางอันเปลี่ยนเป็นกลีบปาก กลีบปากรูปคล้ายช้อนยาวประมาณ 2.5 เซนติเมตร มีก้าน ส่วนที่เป็นแผ่นยาวประมาณ 1.3 เซนติเมตร ปลายแยกเป็นแฉกลึกประมาณ 6 มิลลิเมตร สีขาวและมีขีดสีชมพู 2 ข้างของเส้นกลางแผ่น ขอบหยักฟันเลื่อยไม่เป็นระเบียบ เกสรเพศผู้ที่เป็นหมันที่เหลือลดรูปเป็นรูปลิ่มแคบขนาดเล็กมากหรือเป็นเส้นบาง สีแดง เกสรเพศผู้ที่สมบูรณ์มี 1 อัน ก้านชูอับเรณูยาว 1.4-1.8 เซนติเมตร มีขนต่อมปกคลุม ติดที่ฐานของอับเรณู อับเรณูยาวประมาณ 9 มิลลิเมตร สีเหลือง ไม่มีหงอน รังไข่ใต้วงกลีบ รูปไข่กลับ กว้างประมาณ 3 มิลลิเมตร ยาว 5-6 มิลลิเมตร มี 3 ช่อง แต่ละช่องมีออวุลจำนวนมาก ผล แบบผลแห้งแตก รูปค่อนข้างกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร สีส้มแดง เมล็ด มี 5-9 เมล็ด สีน้ำตาลอมดำ รูปกึ่งพีระมิด มีเส้นใยและเมือกปกคลุม
-
ส่วนเหนือดินสูง 100 - 200 ซม. ใบรูปหอกแกม รูปขอบขนาน แผ่นใบเกลี้ยง มีขนบริเวณขอบใบ ช่อดอกออกกลางกลุ่มใบ กลีบเลี้ยงสีเขียวอ่อน กลีบดอกสีขาวหรือเหลืองอ่อน กลีบสเตมิโนดยาวเรียว สีขาวมีเส้นสีแดง กลีบปากสีขาวมีเส้นสีแดง ผลกลม ผลสุกสีส้มหรือแดง
-
ส่วนเหนือดินสูง 100 - 200 ซม. ใบรูปหอกแกม รูปขอบขนาน แผ่นใบเกลี้ยง มีขนบริเวณขอบใบ ช่อดอกออกกลางกลุ่มใบ กลีบเลี้ยงสีเขียวอ่อน กลีบดอกสีขาวหรือเหลืองอ่อน กลีบสเตมิโนดยาวเรียว สีขาวมีเส้นสีแดง กลีบปากสีขาวมีเส้นสีแดง ผลกลม ผลสุกสีส้มหรือแดง
-
ส่วนเหนือดินสูง 100 - 200 ซม. ใบรูปหอกแกม รูปขอบขนาน แผ่นใบเกลี้ยง มีขนบริเวณขอบใบ ช่อดอกออกกลางกลุ่มใบ กลีบเลี้ยงสีเขียวอ่อน กลีบดอกสีขาวหรือเหลืองอ่อน กลีบสเตมิโนดยาวเรียว สีขาวมีเส้นสีแดง กลีบปากสีขาวมีเส้นสีแดง ผลกลม ผลสุกสีส้มหรือแดง
-
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา :
-
- ไม้ล้มลุก สูง 1.5-2 เมตร เหง้ามีข้อและปล้องชัดเจน
- ใบ เดี่ยว เรียงสลับ รูปใบหอก รูปวงรีหรือเกือบขอบขนาน กว้าง 7-9 ซม. ยาว 20-40 ซม.
- ดอก ช่อ ออกที่ยอด ดอกย่อยขนาดเล็ก กลีบดอกสีขาว โคนติดกันเป็นหลอดสั้นๆ ปลายแยกเป็น 3 กลีบ
- กลีบ ใหญ่ที่สุดมีริ้วสีแดง ใบประดับรูปไข่
- ผล เป็นผลแห้งแตกได้ รูปกลม
-
- ไม้ล้มลุก สูง 1.5-2 เมตร เหง้ามีข้อและปล้องชัดเจน
- ใบ เดี่ยว เรียงสลับ รูปใบหอก รูปวงรีหรือเกือบขอบขนาน กว้าง 7-9 ซม. ยาว 20-40 ซม.
- ดอก ช่อ ออกที่ยอด ดอกย่อยขนาดเล็ก กลีบดอกสีขาว โคนติดกันเป็นหลอดสั้นๆ ปลายแยกเป็น 3 กลีบ
- กลีบ ใหญ่ที่สุดมีริ้วสีแดง ใบประดับรูปไข่
- ผล เป็นผลแห้งแตกได้ รูปกลม
-
- ไม้ล้มลุก สูง 1.5-2 เมตร เหง้ามีข้อและปล้องชัดเจน
- ใบ เดี่ยว เรียงสลับ รูปใบหอก รูปวงรีหรือเกือบขอบขนาน กว้าง 7-9 ซม. ยาว 20-40 ซม.
- ดอก ช่อ ออกที่ยอด ดอกย่อยขนาดเล็ก กลีบดอกสีขาว โคนติดกันเป็นหลอดสั้นๆ ปลายแยกเป็น 3 กลีบ
- กลีบ ใหญ่ที่สุดมีริ้วสีแดง ใบประดับรูปไข่
- ผล เป็นผลแห้งแตกได้ รูปกลม
-
- ไม้ล้มลุก สูง 1.5-2 เมตร เหง้ามีข้อและปล้องชัดเจน
- ใบ เดี่ยว เรียงสลับ รูปใบหอก รูปวงรีหรือเกือบขอบขนาน กว้าง 7-9 ซม. ยาว 20-40 ซม.
- ดอก ช่อ ออกที่ยอด ดอกย่อยขนาดเล็ก กลีบดอกสีขาว โคนติดกันเป็นหลอดสั้นๆ ปลายแยกเป็น 3 กลีบ
- กลีบ ใหญ่ที่สุดมีริ้วสีแดง ใบประดับรูปไข่
- ผล เป็นผลแห้งแตกได้ รูปกลม
-
- ไม้ล้มลุก สูง 1.5-2 เมตร เหง้ามีข้อและปล้องชัดเจน
- ใบ เดี่ยว เรียงสลับ รูปใบหอก รูปวงรีหรือเกือบขอบขนาน กว้าง 7-9 ซม. ยาว 20-40 ซม.
- ดอก ช่อ ออกที่ยอด ดอกย่อยขนาดเล็ก กลีบดอกสีขาว โคนติดกันเป็นหลอดสั้นๆ ปลายแยกเป็น 3 กลีบ
- กลีบ ใหญ่ที่สุดมีริ้วสีแดง ใบประดับรูปไข่
- ผล เป็นผลแห้งแตกได้ รูปกลม
-
วิสัยพืช เป็นไม้ล้มลุก อายุหลายปี เหง้าและลำต้น ส่วนเหง้าเป็นลำต้นใต้ดิน แตกเป็นแง่งสีขาวแผ่อยู่ใต้ดินเป็นข้อ แต่ละแง่งมีรากแขนงขนาดใหญ่ไม่กี่เส้นแทงลึกลงใต้ดิน ใบและกาบใบ อยู่เหนือดิน ประกอบด้วยก้านใบและใบที่แตกออกจากเหง้าใต้ดิน เรียงซ้อนเป็นวงอัดแน่นกลม
-
การขยายพันธุ์ :
-
โดยหน่อ
-
โดยหน่อ
-
โดยหน่อ
-
โดยหน่อ
-
โดยหน่อ
-
แยกเหง้าหรือหน่อ
-
การเก็บเกี่ยว :
-
เก็บส่วนขายพันธุ์ในฤดูฝน
-
พื้นที่เพาะปลูก :
-
ปลูกกระจายทั่วประเทศ