Toggle navigation
หน้าแรก
ข้อมูลสิ่งมีชีวิต
สัตว์
พืช
จุลินทรีย์ และ สิ่งมีชีวิตที่เกี่ยวข้อง
เกี่ยวกับ TH-BIF
การพัฒนา TH-BIF
หน่วยงานเครือข่ายที่สนับสนุนข้อมูล
การจัดกลุ่มสิ่งมีชีวิต
แนวทางปฏิบัติในการสร้างธรรมมาภิบาลข้อมูลของระบบคลังข้อมูลฯ
ข้อมูลเชิงพื้นที่
แผนที่แสดงข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย
ข้อมูลเชิงพื้นที่ของพื้นที่นำร่อง
ข้อมูลสำรวจ
แผนที่แสดงข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย NEW
ข้อมูลเฉพาะเรื่อง
สถานภาพการคุกคาม
ทะเบียนชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน
พรรณพืชและพรรณสัตว์ในพระนาม
สถานะอนุสัญญา CITES
การใช้ประโยชน์ทรัพยากรทางชีวภาพ
ผู้เชี่ยวชาญ
ทำเนียบผู้เชี่ยวชาญ
ลงทะเบียนผู้เชี่ยวชาญ
ข่าวประชาสัมพันธ์
ติดต่อเรา
เอกสารเผยแพร่
แบบประเมินผลความพึงพอใจ
แบบประเมินความพึงพอใจ NEW
LOGIN
ข้อมูลสิ่งมีชีวิต
หน้าแรก
ข้อมูลสิ่งมีชีวิต
Calophyllum pulcherrimum
Calophyllum pulcherrimum
ชื่อวิทยาศาสตร์แบบเต็ม:
Calophyllum pulcherrimum
Wall.
Status:
ACCEPTED
Synonyms
- Calophyllum mesuifolium Wall.
- Calophyllum plicipes Miq.
ชื่อไทย:
-
ตังหน
-
ตังหนยอดแดง
ชื่อท้องถิ่น::
-
ตางอ ชวด
อาณาจักร::
Plantae
ไฟลัม::
Tracheophyta
ชั้น::
Magnoliopsida
อันดับ:
Malpighiales
วงศ์::
Calophyllaceae
สกุล:
Calophyllum
วันที่อัพเดท :
13 ก.พ. 2566 23:28 น.
วันที่สร้าง:
13 ก.พ. 2566 23:28 น.
ข้อมูลทั่วไป
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา :
-
ตังหนเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 10-25 เมตร เป็นไม้ไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มกลม สีเขียวเข้ม กิ่งอ่อนเกลี้ยง ยอดอ่อนเรียวเล็ก ปลายทู่ ๆ ยาวประมาณ 0.2-0.3 ซม. เปลือกเรียบสีเทาอ่อนหรือสีน้ำตาลปนเหลือง มีช่องถ่ายเออากาศทั่วไป และมักมียางสีเหลืองใส ๆ ซึมออกมา เปลือกในสีชมพู ลักษณะเนื้อไม้ สีน้ำตาลปนแดง เป็นมัน เนื้อหอม เสี้ยนตรงและสม่ำเสมอ เหนียว เด้ง แข็ง เลื่อย ผ่า ไส้กบ ตบแต่งได้ง่าย
ใบ มนและรูปขนานแกมรูปหอก ขนาดกว้าง 1-4 ซม. ยาว 3-9 ซม. ปลายอ่อนทู่ ๆ หรือเป็นกิ่งสั้น ๆ โคนมักสอบเรียว เนื้อใบค่อนข้างหนา เกลี้ยง เส้นแขนงใบเห็นไม่ค่อยชัดนักทั้ง 2 ด้าน เส้นกลางใบเป็นส้นทางหลังใบและแบนราบทางท้องใบ ใบแก่จัดหลังใบจะออกสีน้ำตาลปนแดง และท้องใบสีนวล และก้านใบยาวประมาณ 1 ซม.
ดอก ออกเป็นช่อตามปลายกิ่งและง่ามใบ กลีบรองกลีบดอกมี 4 กลีบ สองกลีบนอกรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับและงอเป็นกะพุ้งยาว 0.5 ซม. อีกสองกลีบถัดไปมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยกลีบดอกไม่ปรากฏออก ดอกระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ และเป็นผลระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม
ผล กลมรี ๆ หรือเกือบกลม ยาวประมาณ 2 ซม. ปลายผลเป็นติ่งแหลม ผลแห้งสีน้ำตาลปนแดงอ่อน
-
ตังหนเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 10-25 เมตร เป็นไม้ไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มกลม สีเขียวเข้ม กิ่งอ่อนเกลี้ยง ยอดอ่อนเรียวเล็ก ปลายทู่ ๆ ยาวประมาณ 0.2-0.3 ซม. เปลือกเรียบสีเทาอ่อนหรือสีน้ำตาลปนเหลือง มีช่องถ่ายเออากาศทั่วไป และมักมียางสีเหลืองใส ๆ ซึมออกมา เปลือกในสีชมพู ลักษณะเนื้อไม้ สีน้ำตาลปนแดง เป็นมัน เนื้อหอม เสี้ยนตรงและสม่ำเสมอ เหนียว เด้ง แข็ง เลื่อย ผ่า ไส้กบ ตบแต่งได้ง่าย
ใบ มนและรูปขนานแกมรูปหอก ขนาดกว้าง 1-4 ซม. ยาว 3-9 ซม. ปลายอ่อนทู่ ๆ หรือเป็นกิ่งสั้น ๆ โคนมักสอบเรียว เนื้อใบค่อนข้างหนา เกลี้ยง เส้นแขนงใบเห็นไม่ค่อยชัดนักทั้ง 2 ด้าน เส้นกลางใบเป็นส้นทางหลังใบและแบนราบทางท้องใบ ใบแก่จัดหลังใบจะออกสีน้ำตาลปนแดง และท้องใบสีนวล และก้านใบยาวประมาณ 1 ซม.
ดอก ออกเป็นช่อตามปลายกิ่งและง่ามใบ กลีบรองกลีบดอกมี 4 กลีบ สองกลีบนอกรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับและงอเป็นกะพุ้งยาว 0.5 ซม. อีกสองกลีบถัดไปมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยกลีบดอกไม่ปรากฏออก ดอกระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ และเป็นผลระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม
ผล กลมรี ๆ หรือเกือบกลม ยาวประมาณ 2 ซม. ปลายผลเป็นติ่งแหลม ผลแห้งสีน้ำตาลปนแดงอ่อน
-
ตังหนเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 10-25 เมตร เป็นไม้ไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มกลม สีเขียวเข้ม กิ่งอ่อนเกลี้ยง ยอดอ่อนเรียวเล็ก ปลายทู่ ๆ ยาวประมาณ 0.2-0.3 ซม. เปลือกเรียบสีเทาอ่อนหรือสีน้ำตาลปนเหลือง มีช่องถ่ายเออากาศทั่วไป และมักมียางสีเหลืองใส ๆ ซึมออกมา เปลือกในสีชมพู ลักษณะเนื้อไม้ สีน้ำตาลปนแดง เป็นมัน เนื้อหอม เสี้ยนตรงและสม่ำเสมอ เหนียว เด้ง แข็ง เลื่อย ผ่า ไส้กบ ตบแต่งได้ง่าย
ใบ มนและรูปขนานแกมรูปหอก ขนาดกว้าง 1-4 ซม. ยาว 3-9 ซม. ปลายอ่อนทู่ ๆ หรือเป็นกิ่งสั้น ๆ โคนมักสอบเรียว เนื้อใบค่อนข้างหนา เกลี้ยง เส้นแขนงใบเห็นไม่ค่อยชัดนักทั้ง 2 ด้าน เส้นกลางใบเป็นส้นทางหลังใบและแบนราบทางท้องใบ ใบแก่จัดหลังใบจะออกสีน้ำตาลปนแดง และท้องใบสีนวล และก้านใบยาวประมาณ 1 ซม.
ดอก ออกเป็นช่อตามปลายกิ่งและง่ามใบ กลีบรองกลีบดอกมี 4 กลีบ สองกลีบนอกรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับและงอเป็นกะพุ้งยาว 0.5 ซม. อีกสองกลีบถัดไปมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยกลีบดอกไม่ปรากฏออก ดอกระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ และเป็นผลระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม
ผล กลมรี ๆ หรือเกือบกลม ยาวประมาณ 2 ซม. ปลายผลเป็นติ่งแหลม ผลแห้งสีน้ำตาลปนแดงอ่อน
-
ตังหนเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 10-25 เมตร เป็นไม้ไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มกลม สีเขียวเข้ม กิ่งอ่อนเกลี้ยง ยอดอ่อนเรียวเล็ก ปลายทู่ ๆ ยาวประมาณ 0.2-0.3 ซม. เปลือกเรียบสีเทาอ่อนหรือสีน้ำตาลปนเหลือง มีช่องถ่ายเออากาศทั่วไป และมักมียางสีเหลืองใส ๆ ซึมออกมา เปลือกในสีชมพู ลักษณะเนื้อไม้ สีน้ำตาลปนแดง เป็นมัน เนื้อหอม เสี้ยนตรงและสม่ำเสมอ เหนียว เด้ง แข็ง เลื่อย ผ่า ไส้กบ ตบแต่งได้ง่าย
ใบ มนและรูปขนานแกมรูปหอก ขนาดกว้าง 1-4 ซม. ยาว 3-9 ซม. ปลายอ่อนทู่ ๆ หรือเป็นกิ่งสั้น ๆ โคนมักสอบเรียว เนื้อใบค่อนข้างหนา เกลี้ยง เส้นแขนงใบเห็นไม่ค่อยชัดนักทั้ง 2 ด้าน เส้นกลางใบเป็นส้นทางหลังใบและแบนราบทางท้องใบ ใบแก่จัดหลังใบจะออกสีน้ำตาลปนแดง และท้องใบสีนวล และก้านใบยาวประมาณ 1 ซม.
ดอก ออกเป็นช่อตามปลายกิ่งและง่ามใบ กลีบรองกลีบดอกมี 4 กลีบ สองกลีบนอกรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับและงอเป็นกะพุ้งยาว 0.5 ซม. อีกสองกลีบถัดไปมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยกลีบดอกไม่ปรากฏออก ดอกระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ และเป็นผลระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม
ผล กลมรี ๆ หรือเกือบกลม ยาวประมาณ 2 ซม. ปลายผลเป็นติ่งแหลม ผลแห้งสีน้ำตาลปนแดงอ่อน
-
ตังหนเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 10-25 เมตร เป็นไม้ไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่มกลม สีเขียวเข้ม กิ่งอ่อนเกลี้ยง ยอดอ่อนเรียวเล็ก ปลายทู่ ๆ ยาวประมาณ 0.2-0.3 ซม. เปลือกเรียบสีเทาอ่อนหรือสีน้ำตาลปนเหลือง มีช่องถ่ายเออากาศทั่วไป และมักมียางสีเหลืองใส ๆ ซึมออกมา เปลือกในสีชมพู ลักษณะเนื้อไม้ สีน้ำตาลปนแดง เป็นมัน เนื้อหอม เสี้ยนตรงและสม่ำเสมอ เหนียว เด้ง แข็ง เลื่อย ผ่า ไส้กบ ตบแต่งได้ง่าย
ใบ มนและรูปขนานแกมรูปหอก ขนาดกว้าง 1-4 ซม. ยาว 3-9 ซม. ปลายอ่อนทู่ ๆ หรือเป็นกิ่งสั้น ๆ โคนมักสอบเรียว เนื้อใบค่อนข้างหนา เกลี้ยง เส้นแขนงใบเห็นไม่ค่อยชัดนักทั้ง 2 ด้าน เส้นกลางใบเป็นส้นทางหลังใบและแบนราบทางท้องใบ ใบแก่จัดหลังใบจะออกสีน้ำตาลปนแดง และท้องใบสีนวล และก้านใบยาวประมาณ 1 ซม.
ดอก ออกเป็นช่อตามปลายกิ่งและง่ามใบ กลีบรองกลีบดอกมี 4 กลีบ สองกลีบนอกรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับและงอเป็นกะพุ้งยาว 0.5 ซม. อีกสองกลีบถัดไปมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยกลีบดอกไม่ปรากฏออก ดอกระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ และเป็นผลระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม
ผล กลมรี ๆ หรือเกือบกลม ยาวประมาณ 2 ซม. ปลายผลเป็นติ่งแหลม ผลแห้งสีน้ำตาลปนแดงอ่อน
การขยายพันธุ์ :
-
การเพาะกล้าไม้จากเมล็ด วิธีการเก็บเมล็ด เก็บจากต้นแม่ที่มีลักษณะดี เมล็ดจะมีอายุการเก็บรักษาสั้น ถ้าเก็บรักษาไว้นานเมล็ดจะสูญเสียความชื้นอย่างรวดเร็วทำให้อัตราการงอกลดลงไปมาก เมื่อเก็บเมล็ดจากต้นแม่แล้วจะต้องรีบนำไปปลูก จึงจะมีการงอกสูง
-
การเพาะกล้าไม้จากเมล็ด วิธีการเก็บเมล็ด เก็บจากต้นแม่ที่มีลักษณะดี เมล็ดจะมีอายุการเก็บรักษาสั้น ถ้าเก็บรักษาไว้นานเมล็ดจะสูญเสียความชื้นอย่างรวดเร็วทำให้อัตราการงอกลดลงไปมาก เมื่อเก็บเมล็ดจากต้นแม่แล้วจะต้องรีบนำไปปลูก จึงจะมีการงอกสูง
-
การเพาะกล้าไม้จากเมล็ด วิธีการเก็บเมล็ด เก็บจากต้นแม่ที่มีลักษณะดี เมล็ดจะมีอายุการเก็บรักษาสั้น ถ้าเก็บรักษาไว้นานเมล็ดจะสูญเสียความชื้นอย่างรวดเร็วทำให้อัตราการงอกลดลงไปมาก เมื่อเก็บเมล็ดจากต้นแม่แล้วจะต้องรีบนำไปปลูก จึงจะมีการงอกสูง
-
การเพาะกล้าไม้จากเมล็ด วิธีการเก็บเมล็ด เก็บจากต้นแม่ที่มีลักษณะดี เมล็ดจะมีอายุการเก็บรักษาสั้น ถ้าเก็บรักษาไว้นานเมล็ดจะสูญเสียความชื้นอย่างรวดเร็วทำให้อัตราการงอกลดลงไปมาก เมื่อเก็บเมล็ดจากต้นแม่แล้วจะต้องรีบนำไปปลูก จึงจะมีการงอกสูง
-
การเพาะกล้าไม้จากเมล็ด วิธีการเก็บเมล็ด เก็บจากต้นแม่ที่มีลักษณะดี เมล็ดจะมีอายุการเก็บรักษาสั้น ถ้าเก็บรักษาไว้นานเมล็ดจะสูญเสียความชื้นอย่างรวดเร็วทำให้อัตราการงอกลดลงไปมาก เมื่อเก็บเมล็ดจากต้นแม่แล้วจะต้องรีบนำไปปลูก จึงจะมีการงอกสูง
แหล่งที่พบภายในประเทศ :
-
ชุมพร, ระนอง
รายละเอียดอื่นๆ ของแหล่งที่พบ :
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ควนแม่ยายหม่อน
ที่มาของข้อมูล
กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
หน่วยงานผู้นำเข้าข้อมูล
สิ่งมีชีวิตที่เกี่ยวข้อง
Gluta capituliflora
Costus globosus
Erigeron sublyratus
Hodgsonia macrocarpa
Hoya oblongacutifolia
หญ้าคางเลือย
Scutellaria incurva
Previous
Next