รายละเอียดอื่นๆ ของแหล่งที่พบ :
-
พื้นที่ชุ่มน้ำหนองบงคาย
-
อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ อำเภอลับแล อุตรดิตถ์, อำเภอวังชิ้น อำเภอเด่นชัย แพร่
-
บริเวณเขาดอยติ้ว ตำบลศรีภูมิ อำเภอท่าวังผา
-
บริเวณจุดผ่อนปรนไทย-ลาว อำเภอสองแคว
-
อุทยานแห่งชาติ เขาค้อ
-
อุทยานแห่งชาติ ดอยหลวง
-
อุทยานแห่งชาติ ตาดโตน
-
อุทยานแห่งชาติ ภูสระดอกบัว
-
อุทยานแห่งชาติ ศรีสัชนาลัย
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดอยเวียงหล้า
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูวัว
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่ตื่น
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่ตื่น
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่ยวมฝั่งขวา
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่เลา-แม่แสะ
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ลุ่มน้ำปาย
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยศาลา
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยศาลา
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรมหลวงชุมพร
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุ้มผาง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุ้มผาง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุ้มผาง
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา :
-
ไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ สูง 4-12 เมตร เปลือกต้นเรียบ สีเทา เรือนยอดโปร่งเป็นพุ่มแผ่กว้าง กิ่งก้านออกในแนวขนานกับพื้นดิน ปลายกิ่งลู่ลง กิ่งอ่อนมีขนปกคลุม เปลือกต้นสีเขียวอมเทาอ่อนหรือน้ำตาล ผิวบางเรียบเกลี้ยงหรือมีรอยแตกตามยาวบางๆ มีรูอากาศมาก เปลือกชั้นในสีเขียวสด ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่แกมรูปใบหอก กว้าง 3-5 เซนติเมตร ยาว 7-12 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบไม่สมมาตร ขอบใบจักแบบฟันเลื่อยละเอียด ยอดอ่อนมีขนสีเงินหนาแน่น ผิวใบสากคาย ใบแก่ด้านบนมีขนหยาบประปราย ด้านล่างสีเขียวอมเทาเป็นหย่อมแน่นๆ ปะปนกับขนสีเงินที่ยาวกว่า เส้นใบออกจากฐานใบ 3-5 เส้น ทอด ½-3/4 ตามความยาวของใบ เส้นใบข้างโค้งมาก 4-8 คู่ ก้านใบยาว 0.4-1.7 ซม. มีร่องและมีขนหนาแน่น มักจะมีประสีชมพูหรือม่วง หูใบรูปหอก ขนาด 2.6 มม. ไม่เชื่อมกัน ดอกสีขาวอมเขียว ขนาดเล็กออกเป็นช่อสั้นๆ เป็นกระจุกที่ซอกใบ ดอกย่อยมีขนาดเล็ก ขนาดดอก 0.3 ซม. ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียอยู่บนต้นเดียวกัน แต่แยกช่อ ดอกเพศผู้มีจำนวนมากกว่า 20 ดอก ช่อดอกเพศเมียมีดอกประมาณ 15-20 ดอก ดอกย่อยมีกลีบรวม 5 กลีบ มีขน ดอกตัวผู้ช่อแน่นและแตกแขนงยาวถึง 2.5 ซม. ดอกมักเป็นคู่ มีก้านของช่อข้างล่างโค้งลง ชั้นกลีบเลี้ยงแยก 4-5 พู ขนาด 1.5 มม. ไม่ซ้อนกัน เกสรตัวผู้ 4-5 อัน อยู่ตรงข้ามกับพูกลีบเลี้ยง ดอกตัวเมียคล้ายกันแต่ช่อโปร่งกว่า มีเกสรตัวเมียแยก 2 กิ่ง รังไข่ไม่มีก้านชู ผลสดลักษณะกลม แข็ง ขนาด 3-4 มิลลิเมตร ก้านผลยาว 0.3 ซม. ผลสีเขียวเข้มเมื่อสุกมีสีดำ มีชั้นกลีบเลี้ยงติดที่ฐานและปลายเกสรตัวเมียติดที่ยอดผล เนื้อภายในบาง ชั้นหุ้มเมล็ดแข็ง มีเมล็ดเดียว พบตามที่โล่งและตามชายป่าดงดิบ ที่ระดับความสูง 600-1,500 เมตร เป็นไม้เนื้อ่อนโตเร็ว ออกดอกและติดผลราวเดือนมีนาคมถึงสิงหาคม
-
ไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ สูง 4-12 เมตร เปลือกต้นเรียบ สีเทา เรือนยอดโปร่งเป็นพุ่มแผ่กว้าง กิ่งก้านออกในแนวขนานกับพื้นดิน ปลายกิ่งลู่ลง กิ่งอ่อนมีขนปกคลุม เปลือกต้นสีเขียวอมเทาอ่อนหรือน้ำตาล ผิวบางเรียบเกลี้ยงหรือมีรอยแตกตามยาวบางๆ มีรูอากาศมาก เปลือกชั้นในสีเขียวสด ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่แกมรูปใบหอก กว้าง 3-5 เซนติเมตร ยาว 7-12 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบไม่สมมาตร ขอบใบจักแบบฟันเลื่อยละเอียด ยอดอ่อนมีขนสีเงินหนาแน่น ผิวใบสากคาย ใบแก่ด้านบนมีขนหยาบประปราย ด้านล่างสีเขียวอมเทาเป็นหย่อมแน่นๆ ปะปนกับขนสีเงินที่ยาวกว่า เส้นใบออกจากฐานใบ 3-5 เส้น ทอด ½-3/4 ตามความยาวของใบ เส้นใบข้างโค้งมาก 4-8 คู่ ก้านใบยาว 0.4-1.7 ซม. มีร่องและมีขนหนาแน่น มักจะมีประสีชมพูหรือม่วง หูใบรูปหอก ขนาด 2.6 มม. ไม่เชื่อมกัน ดอกสีขาวอมเขียว ขนาดเล็กออกเป็นช่อสั้นๆ เป็นกระจุกที่ซอกใบ ดอกย่อยมีขนาดเล็ก ขนาดดอก 0.3 ซม. ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียอยู่บนต้นเดียวกัน แต่แยกช่อ ดอกเพศผู้มีจำนวนมากกว่า 20 ดอก ช่อดอกเพศเมียมีดอกประมาณ 15-20 ดอก ดอกย่อยมีกลีบรวม 5 กลีบ มีขน ดอกตัวผู้ช่อแน่นและแตกแขนงยาวถึง 2.5 ซม. ดอกมักเป็นคู่ มีก้านของช่อข้างล่างโค้งลง ชั้นกลีบเลี้ยงแยก 4-5 พู ขนาด 1.5 มม. ไม่ซ้อนกัน เกสรตัวผู้ 4-5 อัน อยู่ตรงข้ามกับพูกลีบเลี้ยง ดอกตัวเมียคล้ายกันแต่ช่อโปร่งกว่า มีเกสรตัวเมียแยก 2 กิ่ง รังไข่ไม่มีก้านชู ผลสดลักษณะกลม แข็ง ขนาด 3-4 มิลลิเมตร ก้านผลยาว 0.3 ซม. ผลสีเขียวเข้มเมื่อสุกมีสีดำ มีชั้นกลีบเลี้ยงติดที่ฐานและปลายเกสรตัวเมียติดที่ยอดผล เนื้อภายในบาง ชั้นหุ้มเมล็ดแข็ง มีเมล็ดเดียว พบตามที่โล่งและตามชายป่าดงดิบ ที่ระดับความสูง 600-1,500 เมตร เป็นไม้เนื้อ่อนโตเร็ว ออกดอกและติดผลราวเดือนมีนาคมถึงสิงหาคม
-
ไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ สูง 4-12 เมตร เปลือกต้นเรียบ สีเทา เรือนยอดโปร่งเป็นพุ่มแผ่กว้าง กิ่งก้านออกในแนวขนานกับพื้นดิน ปลายกิ่งลู่ลง กิ่งอ่อนมีขนปกคลุม เปลือกต้นสีเขียวอมเทาอ่อนหรือน้ำตาล ผิวบางเรียบเกลี้ยงหรือมีรอยแตกตามยาวบางๆ มีรูอากาศมาก เปลือกชั้นในสีเขียวสด ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่แกมรูปใบหอก กว้าง 3-5 เซนติเมตร ยาว 7-12 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบไม่สมมาตร ขอบใบจักแบบฟันเลื่อยละเอียด ยอดอ่อนมีขนสีเงินหนาแน่น ผิวใบสากคาย ใบแก่ด้านบนมีขนหยาบประปราย ด้านล่างสีเขียวอมเทาเป็นหย่อมแน่นๆ ปะปนกับขนสีเงินที่ยาวกว่า เส้นใบออกจากฐานใบ 3-5 เส้น ทอด ½-3/4 ตามความยาวของใบ เส้นใบข้างโค้งมาก 4-8 คู่ ก้านใบยาว 0.4-1.7 ซม. มีร่องและมีขนหนาแน่น มักจะมีประสีชมพูหรือม่วง หูใบรูปหอก ขนาด 2.6 มม. ไม่เชื่อมกัน ดอกสีขาวอมเขียว ขนาดเล็กออกเป็นช่อสั้นๆ เป็นกระจุกที่ซอกใบ ดอกย่อยมีขนาดเล็ก ขนาดดอก 0.3 ซม. ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียอยู่บนต้นเดียวกัน แต่แยกช่อ ดอกเพศผู้มีจำนวนมากกว่า 20 ดอก ช่อดอกเพศเมียมีดอกประมาณ 15-20 ดอก ดอกย่อยมีกลีบรวม 5 กลีบ มีขน ดอกตัวผู้ช่อแน่นและแตกแขนงยาวถึง 2.5 ซม. ดอกมักเป็นคู่ มีก้านของช่อข้างล่างโค้งลง ชั้นกลีบเลี้ยงแยก 4-5 พู ขนาด 1.5 มม. ไม่ซ้อนกัน เกสรตัวผู้ 4-5 อัน อยู่ตรงข้ามกับพูกลีบเลี้ยง ดอกตัวเมียคล้ายกันแต่ช่อโปร่งกว่า มีเกสรตัวเมียแยก 2 กิ่ง รังไข่ไม่มีก้านชู ผลสดลักษณะกลม แข็ง ขนาด 3-4 มิลลิเมตร ก้านผลยาว 0.3 ซม. ผลสีเขียวเข้มเมื่อสุกมีสีดำ มีชั้นกลีบเลี้ยงติดที่ฐานและปลายเกสรตัวเมียติดที่ยอดผล เนื้อภายในบาง ชั้นหุ้มเมล็ดแข็ง มีเมล็ดเดียว พบตามที่โล่งและตามชายป่าดงดิบ ที่ระดับความสูง 600-1,500 เมตร เป็นไม้เนื้อ่อนโตเร็ว ออกดอกและติดผลราวเดือนมีนาคมถึงสิงหาคม