- พื้นที่ชุมน้ำปากแม่น้ำกระบี่

- อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น

- มะฮอกกานีนั้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่ สูง 30-35 เมตรเป็นเรื่องธรรมดา ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 50-120 เซนติเมตร ตามแต่อายุ และพื้นที่ของฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ปลูกมะฮอกกานีกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณพื้นที่ระดับ 700 เมตร โดยได้ปลูกต้นไม้ชนิดนี้ซึ่งเป็นญาติอันใกล้ชิดกับสะเดา แต่มะฮอกกานีมีใบใหญ่กว่ามาก ขอบใบเรียบ ไม่หยักหรือเป็นร่อง ผิวใบบนเป็นสีเขียวคล้ำ ใบแก่มักร่วงหล่นไปพร้อมแทงใบใหม่ ดูคล้ายกับไม่ผลัดใบ ใบอ่อนสีม่วงอ่อน และเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มขึ้นตามอายุ

- มะฮอกกานีนั้นมีขนาดค่อนข้างใหญ่ สูง 30-35 เมตรเป็นเรื่องธรรมดา ลำต้นมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 50-120 เซนติเมตร ตามแต่อายุ และพื้นที่ของฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ปลูกมะฮอกกานีกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณพื้นที่ระดับ 700 เมตร โดยได้ปลูกต้นไม้ชนิดนี้ซึ่งเป็นญาติอันใกล้ชิดกับสะเดา แต่มะฮอกกานีมีใบใหญ่กว่ามาก ขอบใบเรียบ ไม่หยักหรือเป็นร่อง ผิวใบบนเป็นสีเขียวคล้ำ ใบแก่มักร่วงหล่นไปพร้อมแทงใบใหม่ ดูคล้ายกับไม่ผลัดใบ ใบอ่อนสีม่วงอ่อน และเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้มขึ้นตามอายุ

- มะฮอกกานีใบเล็ก ทรงพุ่มเป็นวงรีหรือรูปไข่ สวยงามกว่า เส้นผ่านศูนย์กลางของทรงพุ่ม อยู่ที่ประมาณ 5-6เมตร ระยะห่างจากหลุมปลูกถึงตัวบ้านอย่างน้อยๆ ก็ควรจะมีถึง 7 เมตร

- มะฮอกกานีใบเล็ก ทรงพุ่มเป็นวงรีหรือรูปไข่ สวยงามกว่า เส้นผ่านศูนย์กลางของทรงพุ่ม อยู่ที่ประมาณ 5-6เมตร ระยะห่างจากหลุมปลูกถึงตัวบ้านอย่างน้อยๆ ก็ควรจะมีถึง 7 เมตร

- ไม้ต้นขนาดใหญ่ สูง 15-25 ม. ขนาดทรงพุ่ม 6-10 ม. ผลัดใบ ทรงกระบอก ค่อนข้างแน่น ลำต้นเปลาตรง เปลือกต้น สีน้ำตาลหรือเทาอมดำ แตกเป็นร่องตามแนวยาวและหลุดล่อนเป็นแผ่น
ใบ ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ เรียงเวียนสลับ แกนกลางใบ ประกอบยาว 20-50 ซม. ใบย่อย 3-8 คู่ เรียงตรงข้าม รูปรีแกมรูปขอบขนาน กว้าง 2.5-6 ซม. ยาว 6-15 ซม. ปลายใบเรียวแหลม โคนใบเบี้ยว ขอบใบเป็นคลื่น แผ่นใบบางแต่ค่อนข้างเหนียวและย่น เป็นลอน สีเขียวเข้มเป็นมัน
ดอก สีเหลืองอมเขียว มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนง ที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ช่อดอกตั้งยาว 10-15 ซม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ สีเขียวอ่อนโคนเชื่อมติดกัน กลีบดอก 5 กลีบ รูปช้อน ปลายมน ติดอยู่กับ หลอดเกสรตัวผู้โดยโคนกลีบเชื่อมติดกัน เกสรเพศผู้ 8-10 อัน เชื่อมติดกัน เป็นหลอด เส้นผ่านศูนย์กลางดอก 0.7-1.2 ซม. ออกดอกเดือน พ.ค.-มิ.ย. ผล ผลแห้งแตก รูปไข่ กว้าง 6-9 ซม. ยาว 14-18 ซม. เปลือกหนา สีน้ำตาลอมเหลือง เมื่อสุกมีสีน้ำตาลอมเทา แตกจากโคนเป็น 5 พู เมล็ดเป็นแผ่น มีปีกรูปรียาว ปลายปีกบาง สีน้ำตาล หลายเมล็ด ติดผล เดือน ก.ค.-ต.ค. ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด

- ไม้ต้นขนาดใหญ่ สูง 15-25 ม. ขนาดทรงพุ่ม 6-10 ม. ผลัดใบ ทรงกระบอก ค่อนข้างแน่น ลำต้นเปลาตรง เปลือกต้น สีน้ำตาลหรือเทาอมดำ แตกเป็นร่องตามแนวยาวและหลุดล่อนเป็นแผ่น
ใบ ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ เรียงเวียนสลับ แกนกลางใบ ประกอบยาว 20-50 ซม. ใบย่อย 3-8 คู่ เรียงตรงข้าม รูปรีแกมรูปขอบขนาน กว้าง 2.5-6 ซม. ยาว 6-15 ซม. ปลายใบเรียวแหลม โคนใบเบี้ยว ขอบใบเป็นคลื่น แผ่นใบบางแต่ค่อนข้างเหนียวและย่น เป็นลอน สีเขียวเข้มเป็นมัน
ดอก สีเหลืองอมเขียว มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนง ที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ช่อดอกตั้งยาว 10-15 ซม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ สีเขียวอ่อนโคนเชื่อมติดกัน กลีบดอก 5 กลีบ รูปช้อน ปลายมน ติดอยู่กับ หลอดเกสรตัวผู้โดยโคนกลีบเชื่อมติดกัน เกสรเพศผู้ 8-10 อัน เชื่อมติดกัน เป็นหลอด เส้นผ่านศูนย์กลางดอก 0.7-1.2 ซม. ออกดอกเดือน พ.ค.-มิ.ย. ผล ผลแห้งแตก รูปไข่ กว้าง 6-9 ซม. ยาว 14-18 ซม. เปลือกหนา สีน้ำตาลอมเหลือง เมื่อสุกมีสีน้ำตาลอมเทา แตกจากโคนเป็น 5 พู เมล็ดเป็นแผ่น มีปีกรูปรียาว ปลายปีกบาง สีน้ำตาล หลายเมล็ด ติดผล เดือน ก.ค.-ต.ค. ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด

- 1. การเพาะเมล็ด

- 1. การเพาะเมล็ด

- 1. การเพาะเมล็ด

- 1. การเพาะเมล็ด

- เพาะเมล็ด

- เพาะเมล็ด

- ขอนแก่น