Toggle navigation
หน้าแรก
ข้อมูลสิ่งมีชีวิต
สัตว์
พืช
จุลินทรีย์ และ สิ่งมีชีวิตที่เกี่ยวข้อง
เกี่ยวกับ TH-BIF
การพัฒนา TH-BIF
หน่วยงานเครือข่ายที่สนับสนุนข้อมูล
การจัดกลุ่มสิ่งมีชีวิต
แนวทางปฏิบัติในการสร้างธรรมมาภิบาลข้อมูลของระบบคลังข้อมูลฯ
ข้อมูลเชิงพื้นที่
แผนที่แสดงข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย
ข้อมูลเชิงพื้นที่ของพื้นที่นำร่อง
ข้อมูลสำรวจ
แผนที่แสดงข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย NEW
ข้อมูลเฉพาะเรื่อง
สถานภาพการคุกคาม
ทะเบียนชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน
พรรณพืชและพรรณสัตว์ในพระนาม
สถานะอนุสัญญา CITES
การใช้ประโยชน์ทรัพยากรชีวภาพของประเทศไทย
พื้นที่อนุรักษ์ตามกฎหมายและพื้นที่ OECMs
ผู้เชี่ยวชาญ
ทำเนียบผู้เชี่ยวชาญ
ลงทะเบียนผู้เชี่ยวชาญ
ข่าวประชาสัมพันธ์
ติดต่อเรา
เอกสารเผยแพร่
แบบประเมินผลความพึงพอใจ
แบบประเมินความพึงพอใจ NEW
LOGIN
ข้อมูลสิ่งมีชีวิต
หน้าแรก
ข้อมูลสิ่งมีชีวิต
Crotalaria sessiliflora
Crotalaria sessiliflora
ชื่อวิทยาศาสตร์แบบเต็ม:
Crotalaria sessiliflora
L.
Status:
ACCEPTED
Synonyms
- Crotalaria calycina Pulle
- Crotalaria nepaulensis Link
- Crotalaria sessitiflora L.
ชื่อไทย:
-
หิ่งครามฟ้า
ชื่อท้องถิ่น::
-
มะหิ่งครามฟ้า ฟ้างามดิน
อาณาจักร::
Plantae
ไฟลัม::
Tracheophyta
ชั้น::
Magnoliopsida
อันดับ:
Fabales
วงศ์::
Fabaceae
สกุล:
Crotalaria
วันที่อัพเดท :
17 ส.ค. 2563 09:28 น.
วันที่สร้าง:
17 ส.ค. 2563 09:28 น.
ข้อมูลทั่วไป
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
-
ไม้ล้มลุก สูงถึง 50 ซม. ต้นและกิ่งก้านมีขนแน่น ใบ เดี่ยว รูปหอกถึงแกมขอบขนาน กว้าง 0.4-1.5 ซม. ยาว 3-7 ซม. ใบมีขน หนาแน่นที่ด้านล่าง ปลายใบแหลม โคนใบทู่ หูใบหลุดร่วงง่าย ดอก สีน้ำเงินแกมม่วง ออกเป็นช่อแน่นจากปลายยอด ยาว 4-14 ซม. ดอกย่อยรูปดอกถั่ว ขนาดบานกว้าง 1 ซม. กลีบรองดอก ยาว 1.5 ซม. เว้าลึกเป็น 2 ปาก กลีบดอก 5 กลีบ กลีบบนแผ่กว้าง รูปไข่กลับ ปลายกลีบเว้าตื้น ตรงกลางกลีบข้างรูปขอบขนานแคบ กลีบล่าง คล้ายท้องเรือ รังไข่รูปขอบขนานเกลี้ยง ผล เป็นฝักรูปขอบขนาน โป่งพอง กว้าง 0.5 ซม. ยาว 1.2 ซม. ผลแก่แล้วแตก เมล็ดรูปหัวใจเบี้ยว ขนาดเล็ก
-
ไม้ล้มลุก สูงถึง 50 ซม. ต้นและกิ่งก้านมีขนแน่น ใบ เดี่ยว รูปหอกถึงแกมขอบขนาน กว้าง 0.4-1.5 ซม. ยาว 3-7 ซม. ใบมีขน หนาแน่นที่ด้านล่าง ปลายใบแหลม โคนใบทู่ หูใบหลุดร่วงง่าย ดอก สีน้ำเงินแกมม่วง ออกเป็นช่อแน่นจากปลายยอด ยาว 4-14 ซม. ดอกย่อยรูปดอกถั่ว ขนาดบานกว้าง 1 ซม. กลีบรองดอก ยาว 1.5 ซม. เว้าลึกเป็น 2 ปาก กลีบดอก 5 กลีบ กลีบบนแผ่กว้าง รูปไข่กลับ ปลายกลีบเว้าตื้น ตรงกลางกลีบข้างรูปขอบขนานแคบ กลีบล่าง คล้ายท้องเรือ รังไข่รูปขอบขนานเกลี้ยง ผล เป็นฝักรูปขอบขนาน โป่งพอง กว้าง 0.5 ซม. ยาว 1.2 ซม. ผลแก่แล้วแตก เมล็ดรูปหัวใจเบี้ยว ขนาดเล็ก
-
ไม้ล้มลุก สูงถึง 50 ซม. ต้นและกิ่งก้านมีขนแน่น ใบ เดี่ยว รูปหอกถึงแกมขอบขนาน กว้าง 0.4-1.5 ซม. ยาว 3-7 ซม. ใบมีขน หนาแน่นที่ด้านล่าง ปลายใบแหลม โคนใบทู่ หูใบหลุดร่วงง่าย ดอก สีน้ำเงินแกมม่วง ออกเป็นช่อแน่นจากปลายยอด ยาว 4-14 ซม. ดอกย่อยรูปดอกถั่ว ขนาดบานกว้าง 1 ซม. กลีบรองดอก ยาว 1.5 ซม. เว้าลึกเป็น 2 ปาก กลีบดอก 5 กลีบ กลีบบนแผ่กว้าง รูปไข่กลับ ปลายกลีบเว้าตื้น ตรงกลางกลีบข้างรูปขอบขนานแคบ กลีบล่าง คล้ายท้องเรือ รังไข่รูปขอบขนานเกลี้ยง ผล เป็นฝักรูปขอบขนาน โป่งพอง กว้าง 0.5 ซม. ยาว 1.2 ซม. ผลแก่แล้วแตก เมล็ดรูปหัวใจเบี้ยว ขนาดเล็ก
-
ไม้ล้มลุก สูงถึง 50 ซม. ต้นและกิ่งก้านมีขนแน่น ใบ เดี่ยว รูปหอกถึงแกมขอบขนาน กว้าง 0.4-1.5 ซม. ยาว 3-7 ซม. ใบมีขน หนาแน่นที่ด้านล่าง ปลายใบแหลม โคนใบทู่ หูใบหลุดร่วงง่าย ดอก สีน้ำเงินแกมม่วง ออกเป็นช่อแน่นจากปลายยอด ยาว 4-14 ซม. ดอกย่อยรูปดอกถั่ว ขนาดบานกว้าง 1 ซม. กลีบรองดอก ยาว 1.5 ซม. เว้าลึกเป็น 2 ปาก กลีบดอก 5 กลีบ กลีบบนแผ่กว้าง รูปไข่กลับ ปลายกลีบเว้าตื้น ตรงกลางกลีบข้างรูปขอบขนานแคบ กลีบล่าง คล้ายท้องเรือ รังไข่รูปขอบขนานเกลี้ยง ผล เป็นฝักรูปขอบขนาน โป่งพอง กว้าง 0.5 ซม. ยาว 1.2 ซม. ผลแก่แล้วแตก เมล็ดรูปหัวใจเบี้ยว ขนาดเล็ก
การกระจายพันธุ์ :
-
นิเวศวิทยา อินเดียถึงเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ และอินโดนีเซีย ประเทศไทยพบทุกภาค ตามทุ่งหญ้าเปิด ในป่าผลัดใบและป่าดิบเขา ที่ระดับความสูง 200-1,300 เมตร ออกดอกและติดฝัก ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์
-
นิเวศวิทยา อินเดียถึงเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ และอินโดนีเซีย ประเทศไทยพบทุกภาค ตามทุ่งหญ้าเปิด ในป่าผลัดใบและป่าดิบเขา ที่ระดับความสูง 200-1,300 เมตร ออกดอกและติดฝัก ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์
-
นิเวศวิทยา อินเดียถึงเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ และอินโดนีเซีย ประเทศไทยพบทุกภาค ตามทุ่งหญ้าเปิด ในป่าผลัดใบและป่าดิบเขา ที่ระดับความสูง 200-1,300 เมตร ออกดอกและติดฝัก ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์
-
นิเวศวิทยา อินเดียถึงเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ และอินโดนีเซีย ประเทศไทยพบทุกภาค ตามทุ่งหญ้าเปิด ในป่าผลัดใบและป่าดิบเขา ที่ระดับความสูง 200-1,300 เมตร ออกดอกและติดฝัก ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์
ที่มาของข้อมูล
องค์การสวนพฤกษศาสตร์
สิ่งมีชีวิตที่เกี่ยวข้อง
Rostellularia neglecta
Dendrobium henryi
Zinnia elegans
Amischotolype marginata
Amorphophallus josefbogneri
Actinostachys digitata