ข้อมูลสิ่งมีชีวิต
วันที่อัพเดท : 12 มิ.ย. 2566 12:11 น.
วันที่สร้าง: 12 มิ.ย. 2566 12:11 น.
ข้อมูลทั่วไป
รายละเอียดอื่นๆ ของแหล่งที่พบ :
-
พื้นที่ชุมน้ำปากแม่น้ำกระบี่
-
อุทยานแห่งชาติ คลองลาน
-
อุทยานแห่งชาติ พุเตย
-
อุทยานแห่งชาติ สันกาลาคีรี
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรมหลวงชุมพร
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรมหลวงชุมพร
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุ้มผาง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุ้มผาง
-
บริเวณโดยรอบโรงไฟฟ้าและเหมืองแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง
-
บริเวณโดยรอบโรงไฟฟ้าพระนครใต้ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
-
บริเวณโดยรอบโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา :
-
ไม้ต้น สูงได้ถึง ๒๐ เมตร โคนต้นมีพูพอนเล็กน้อย
ใบ เป็นใบเดี่ยว รูปขอบขนานแกมใบหอก ปลายแหลม
ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง ดอกย่อยขนาดเล็ก สีครีม มีจำนวนมาก
ผลสด รูปไข่แกมรี ลักษณะป้อม ผิวเกลี้ยง ผลสด มีเนื้อผล เมื่อสุกมีกลิ่นหอมรับประทานได้ เมล็ดเดี่ยว แข็ง ค่อนข้างใหญ่
ใบ เป็นใบเดี่ยว รูปขอบขนานแกมใบหอก ปลายแหลม
ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง ดอกย่อยขนาดเล็ก สีครีม มีจำนวนมาก
ผลสด รูปไข่แกมรี ลักษณะป้อม ผิวเกลี้ยง ผลสด มีเนื้อผล เมื่อสุกมีกลิ่นหอมรับประทานได้ เมล็ดเดี่ยว แข็ง ค่อนข้างใหญ่
-
ไม้ต้น สูงได้ถึง ๒๐ เมตร โคนต้นมีพูพอนเล็กน้อย
ใบ เป็นใบเดี่ยว รูปขอบขนานแกมใบหอก ปลายแหลม
ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง ดอกย่อยขนาดเล็ก สีครีม มีจำนวนมาก
ผลสด รูปไข่แกมรี ลักษณะป้อม ผิวเกลี้ยง ผลสด มีเนื้อผล เมื่อสุกมีกลิ่นหอมรับประทานได้ เมล็ดเดี่ยว แข็ง ค่อนข้างใหญ่
ใบ เป็นใบเดี่ยว รูปขอบขนานแกมใบหอก ปลายแหลม
ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบหรือปลายกิ่ง ดอกย่อยขนาดเล็ก สีครีม มีจำนวนมาก
ผลสด รูปไข่แกมรี ลักษณะป้อม ผิวเกลี้ยง ผลสด มีเนื้อผล เมื่อสุกมีกลิ่นหอมรับประทานได้ เมล็ดเดี่ยว แข็ง ค่อนข้างใหญ่
-
ลักษณะทั่วไป : มะม่วงน้ำดอกไม้เป็นมะม่วงประเภทรับประทานสุก ทรงพุ่มโปร่ง เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดกลาง มีอายุประมาณ 15-20 ปี ลำต้นสูงประมาณ 10-15 เมตร ลำต้นแตกกิ่งน้อย แลดูเป็นทรงพุ่มโปร่ง เปลือกลำต้นสีดำอมเทา
ลักษณะใบ : ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับกันบนกิ่งแขนง ใบมีรูปหอก โคนใบสอบแหลม ปลายใบแหลม ขอบใบโค้งเป็นลูกคลื่น แผ่นใบมีขนาดใหญ่ สีเขียวเข้ม และเป็นมัน
ลักษณะผล : ผลมีขนาดใหญ่ หนักประมาณ 400 กรัม ผลอ้วนเกือบกลมหัวใหญ่ปลายแหลม ผลค่อนข้างยาว เนื้อมาก เมล็ดเล็ก มีผิวบาง เมื่อดิบมีรสเปรี้ยว ผิวสีเขียวนวล เนื้อแน่น เมื่อผลสุกมีผิวสีเหลือง กลิ่นหอม เนื้อละเอียดมีเสี้ยนน้อย รสหวาน
ลักษณะใบ : ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับกันบนกิ่งแขนง ใบมีรูปหอก โคนใบสอบแหลม ปลายใบแหลม ขอบใบโค้งเป็นลูกคลื่น แผ่นใบมีขนาดใหญ่ สีเขียวเข้ม และเป็นมัน
ลักษณะผล : ผลมีขนาดใหญ่ หนักประมาณ 400 กรัม ผลอ้วนเกือบกลมหัวใหญ่ปลายแหลม ผลค่อนข้างยาว เนื้อมาก เมล็ดเล็ก มีผิวบาง เมื่อดิบมีรสเปรี้ยว ผิวสีเขียวนวล เนื้อแน่น เมื่อผลสุกมีผิวสีเหลือง กลิ่นหอม เนื้อละเอียดมีเสี้ยนน้อย รสหวาน
-
ลักษณะทั่วไป : มะม่วงน้ำดอกไม้เป็นมะม่วงประเภทรับประทานสุก ทรงพุ่มโปร่ง เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดกลาง มีอายุประมาณ 15-20 ปี ลำต้นสูงประมาณ 10-15 เมตร ลำต้นแตกกิ่งน้อย แลดูเป็นทรงพุ่มโปร่ง เปลือกลำต้นสีดำอมเทา
ลักษณะใบ : ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับกันบนกิ่งแขนง ใบมีรูปหอก โคนใบสอบแหลม ปลายใบแหลม ขอบใบโค้งเป็นลูกคลื่น แผ่นใบมีขนาดใหญ่ สีเขียวเข้ม และเป็นมัน
ลักษณะผล : ผลมีขนาดใหญ่ หนักประมาณ 400 กรัม ผลอ้วนเกือบกลมหัวใหญ่ปลายแหลม ผลค่อนข้างยาว เนื้อมาก เมล็ดเล็ก มีผิวบาง เมื่อดิบมีรสเปรี้ยว ผิวสีเขียวนวล เนื้อแน่น เมื่อผลสุกมีผิวสีเหลือง กลิ่นหอม เนื้อละเอียดมีเสี้ยนน้อย รสหวาน
ลักษณะใบ : ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับกันบนกิ่งแขนง ใบมีรูปหอก โคนใบสอบแหลม ปลายใบแหลม ขอบใบโค้งเป็นลูกคลื่น แผ่นใบมีขนาดใหญ่ สีเขียวเข้ม และเป็นมัน
ลักษณะผล : ผลมีขนาดใหญ่ หนักประมาณ 400 กรัม ผลอ้วนเกือบกลมหัวใหญ่ปลายแหลม ผลค่อนข้างยาว เนื้อมาก เมล็ดเล็ก มีผิวบาง เมื่อดิบมีรสเปรี้ยว ผิวสีเขียวนวล เนื้อแน่น เมื่อผลสุกมีผิวสีเหลือง กลิ่นหอม เนื้อละเอียดมีเสี้ยนน้อย รสหวาน
-
ลำต้น
มะม่วงอกร่อง เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดกลาง มีอายุประมาณ 15-25 ปี ลำต้นเพลาตรง สูงประมาณ 5-15 เมตร ลำต้นแตกกิ่งหลัก และกิ่งแขนงมาก ทำให้แลดูเป็นทรงพุ่มหนาทึบ เปลือกลำต้นสีเทาอมดำ
ใบ
มะม่วงอกร่อง ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับบนปลายกิ่งแขนง ใบมีรูปหอก โคนใบสอบ ปลายใบแหลม แผ่นใบ และขอบใบเรียบ สีเขียวเข้ม ขนาดใบกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร
ดอก
มะม่วงอกร่อง ออกดอกเป็นช่อแขนงที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อแขนงมีดอกย่อยจำนวนมาก ดอกย่อยประกอบด้วยกลีบเลี้ยง 5 กลีบ และกลีบดอก 5 กลีบ ทั้งนี้ ดอกมะม่วงอกร่องมีดอกสมบูรณ์เพศจำนวนมาก ทำให้มะม่วงอกร่องติดผลดก และติดผลได้มากกว่ามะม่วงพันธุ์อื่นๆ
ผล และเมล็ด
ผลมะม่วงอกร่อง มีรูปไข่ อวบใหญ่ และค่อนข้างแบนเล็กน้อย ส่วนบนบริเวณขั้วมีขนาดใหญ่ ด้านหน้าผลโค้งนูน และค่อยเล็กคอดลงทางปลายผลด้านล่าง โดยพันธุ์ดั้งเดิมจะมีร่องตื้นในแนวตั้งตรงกลางบริเวณด้านหน้าผล ขนาดผลกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 5-10เซนติเมตร ผลอ่อนมีสีเขียวอ่อนหรือหรือเขียวอมเหลือง ผลสุกมีสีเหลืองครีมหรือเหลืองอมส้ม เปลือกผลค่อนข้างบาง ส่งกลิ่นหอมแรง และหอมมากกว่ามะม่วงพันธุ์อื่นๆ ส่วนเนื้อผลมีสีเหลืองอมขาวหรือเหลืองครีม เนื้อผลละเอียด ฉ่ำด้วยน้ำหวาน มีเสี้ยนที่ติดจากส่วนเมล็ดเล็กน้อย มีกลิ่นหอม และมีรสหวานจัดมากกว่ามะม่วงทุกสายพันธุ์ ส่วนเมล็ดมีลักษณะคล้ายผลด้านนอก คล้ายรูปไต มีลักษณะแบน ส่วนขั้วเมล็ดใหญ่ และหนา ซึ่งภายในเป็นคัพภะ และเล็กลงด้านล่าง เปลือกเมล็ดมีสีขาวขุ่น มีเส้นใยหุ้ม
มะม่วงอกร่อง เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดกลาง มีอายุประมาณ 15-25 ปี ลำต้นเพลาตรง สูงประมาณ 5-15 เมตร ลำต้นแตกกิ่งหลัก และกิ่งแขนงมาก ทำให้แลดูเป็นทรงพุ่มหนาทึบ เปลือกลำต้นสีเทาอมดำ
ใบ
มะม่วงอกร่อง ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับบนปลายกิ่งแขนง ใบมีรูปหอก โคนใบสอบ ปลายใบแหลม แผ่นใบ และขอบใบเรียบ สีเขียวเข้ม ขนาดใบกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร
ดอก
มะม่วงอกร่อง ออกดอกเป็นช่อแขนงที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อแขนงมีดอกย่อยจำนวนมาก ดอกย่อยประกอบด้วยกลีบเลี้ยง 5 กลีบ และกลีบดอก 5 กลีบ ทั้งนี้ ดอกมะม่วงอกร่องมีดอกสมบูรณ์เพศจำนวนมาก ทำให้มะม่วงอกร่องติดผลดก และติดผลได้มากกว่ามะม่วงพันธุ์อื่นๆ
ผล และเมล็ด
ผลมะม่วงอกร่อง มีรูปไข่ อวบใหญ่ และค่อนข้างแบนเล็กน้อย ส่วนบนบริเวณขั้วมีขนาดใหญ่ ด้านหน้าผลโค้งนูน และค่อยเล็กคอดลงทางปลายผลด้านล่าง โดยพันธุ์ดั้งเดิมจะมีร่องตื้นในแนวตั้งตรงกลางบริเวณด้านหน้าผล ขนาดผลกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 5-10เซนติเมตร ผลอ่อนมีสีเขียวอ่อนหรือหรือเขียวอมเหลือง ผลสุกมีสีเหลืองครีมหรือเหลืองอมส้ม เปลือกผลค่อนข้างบาง ส่งกลิ่นหอมแรง และหอมมากกว่ามะม่วงพันธุ์อื่นๆ ส่วนเนื้อผลมีสีเหลืองอมขาวหรือเหลืองครีม เนื้อผลละเอียด ฉ่ำด้วยน้ำหวาน มีเสี้ยนที่ติดจากส่วนเมล็ดเล็กน้อย มีกลิ่นหอม และมีรสหวานจัดมากกว่ามะม่วงทุกสายพันธุ์ ส่วนเมล็ดมีลักษณะคล้ายผลด้านนอก คล้ายรูปไต มีลักษณะแบน ส่วนขั้วเมล็ดใหญ่ และหนา ซึ่งภายในเป็นคัพภะ และเล็กลงด้านล่าง เปลือกเมล็ดมีสีขาวขุ่น มีเส้นใยหุ้ม
-
ลำต้น
มะม่วงอกร่อง เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดกลาง มีอายุประมาณ 15-25 ปี ลำต้นเพลาตรง สูงประมาณ 5-15 เมตร ลำต้นแตกกิ่งหลัก และกิ่งแขนงมาก ทำให้แลดูเป็นทรงพุ่มหนาทึบ เปลือกลำต้นสีเทาอมดำ
ใบ
มะม่วงอกร่อง ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับบนปลายกิ่งแขนง ใบมีรูปหอก โคนใบสอบ ปลายใบแหลม แผ่นใบ และขอบใบเรียบ สีเขียวเข้ม ขนาดใบกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร
ดอก
มะม่วงอกร่อง ออกดอกเป็นช่อแขนงที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อแขนงมีดอกย่อยจำนวนมาก ดอกย่อยประกอบด้วยกลีบเลี้ยง 5 กลีบ และกลีบดอก 5 กลีบ ทั้งนี้ ดอกมะม่วงอกร่องมีดอกสมบูรณ์เพศจำนวนมาก ทำให้มะม่วงอกร่องติดผลดก และติดผลได้มากกว่ามะม่วงพันธุ์อื่นๆ
ผล และเมล็ด
ผลมะม่วงอกร่อง มีรูปไข่ อวบใหญ่ และค่อนข้างแบนเล็กน้อย ส่วนบนบริเวณขั้วมีขนาดใหญ่ ด้านหน้าผลโค้งนูน และค่อยเล็กคอดลงทางปลายผลด้านล่าง โดยพันธุ์ดั้งเดิมจะมีร่องตื้นในแนวตั้งตรงกลางบริเวณด้านหน้าผล ขนาดผลกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 5-10เซนติเมตร ผลอ่อนมีสีเขียวอ่อนหรือหรือเขียวอมเหลือง ผลสุกมีสีเหลืองครีมหรือเหลืองอมส้ม เปลือกผลค่อนข้างบาง ส่งกลิ่นหอมแรง และหอมมากกว่ามะม่วงพันธุ์อื่นๆ ส่วนเนื้อผลมีสีเหลืองอมขาวหรือเหลืองครีม เนื้อผลละเอียด ฉ่ำด้วยน้ำหวาน มีเสี้ยนที่ติดจากส่วนเมล็ดเล็กน้อย มีกลิ่นหอม และมีรสหวานจัดมากกว่ามะม่วงทุกสายพันธุ์ ส่วนเมล็ดมีลักษณะคล้ายผลด้านนอก คล้ายรูปไต มีลักษณะแบน ส่วนขั้วเมล็ดใหญ่ และหนา ซึ่งภายในเป็นคัพภะ และเล็กลงด้านล่าง เปลือกเมล็ดมีสีขาวขุ่น มีเส้นใยหุ้ม
มะม่วงอกร่อง เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดกลาง มีอายุประมาณ 15-25 ปี ลำต้นเพลาตรง สูงประมาณ 5-15 เมตร ลำต้นแตกกิ่งหลัก และกิ่งแขนงมาก ทำให้แลดูเป็นทรงพุ่มหนาทึบ เปลือกลำต้นสีเทาอมดำ
ใบ
มะม่วงอกร่อง ออกเป็นใบเดี่ยว เรียงสลับบนปลายกิ่งแขนง ใบมีรูปหอก โคนใบสอบ ปลายใบแหลม แผ่นใบ และขอบใบเรียบ สีเขียวเข้ม ขนาดใบกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 15-20 เซนติเมตร
ดอก
มะม่วงอกร่อง ออกดอกเป็นช่อแขนงที่ปลายกิ่ง แต่ละช่อแขนงมีดอกย่อยจำนวนมาก ดอกย่อยประกอบด้วยกลีบเลี้ยง 5 กลีบ และกลีบดอก 5 กลีบ ทั้งนี้ ดอกมะม่วงอกร่องมีดอกสมบูรณ์เพศจำนวนมาก ทำให้มะม่วงอกร่องติดผลดก และติดผลได้มากกว่ามะม่วงพันธุ์อื่นๆ
ผล และเมล็ด
ผลมะม่วงอกร่อง มีรูปไข่ อวบใหญ่ และค่อนข้างแบนเล็กน้อย ส่วนบนบริเวณขั้วมีขนาดใหญ่ ด้านหน้าผลโค้งนูน และค่อยเล็กคอดลงทางปลายผลด้านล่าง โดยพันธุ์ดั้งเดิมจะมีร่องตื้นในแนวตั้งตรงกลางบริเวณด้านหน้าผล ขนาดผลกว้างประมาณ 3-5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 5-10เซนติเมตร ผลอ่อนมีสีเขียวอ่อนหรือหรือเขียวอมเหลือง ผลสุกมีสีเหลืองครีมหรือเหลืองอมส้ม เปลือกผลค่อนข้างบาง ส่งกลิ่นหอมแรง และหอมมากกว่ามะม่วงพันธุ์อื่นๆ ส่วนเนื้อผลมีสีเหลืองอมขาวหรือเหลืองครีม เนื้อผลละเอียด ฉ่ำด้วยน้ำหวาน มีเสี้ยนที่ติดจากส่วนเมล็ดเล็กน้อย มีกลิ่นหอม และมีรสหวานจัดมากกว่ามะม่วงทุกสายพันธุ์ ส่วนเมล็ดมีลักษณะคล้ายผลด้านนอก คล้ายรูปไต มีลักษณะแบน ส่วนขั้วเมล็ดใหญ่ และหนา ซึ่งภายในเป็นคัพภะ และเล็กลงด้านล่าง เปลือกเมล็ดมีสีขาวขุ่น มีเส้นใยหุ้ม
-
ไม้ยืนต้น
การขยายพันธุ์ :
-
1. การเพาะเมล็ด
1.1 เอาเมล็ดมาแกะเอาเปลือกหุ้มเมล็ดออก เพื่อเวลาเพาะแล้วงอกเป็นต้นอ่อนเร็ว ต้นเป็นต้นเดียว ลำต้นตรงสวย
1.2 ใช้กรรไกรตัดกิ่งตัดปลายเมล็ดแกะเอาแต่เมล็ดไปเพาะ
1.3 เมล็ดส่วนโค้งเรียบจะเป็นทางที่ต้นอ่อนโผล่ ส่วนทางที่ขรุขระจะเป็นทางที่รากแก้วแทงลงสู่ดิน
1.4 จึงต้องวางส่วนขรุขระลงสู่ผิวดิน แล้วเอาดินกลบทางส่วนโค้งเรียบ
1.5 กลบดินให้มิดเมล็ด นำไปวางไว้ในที่ๆเหมาะสม ดูแลรดน้ำ
1.6 หนึ่งสัปดาห์ก็จะได้ต้นกล้ามะม่วงที่มีลำต้นตรงสวย
2. การทาบกิ่ง
2.1 การเตรียมต้นตอ
ต้นตอที่จะนำมาทาบกิ่งก็คือ ต้นกล้ามะม่วงที่ได้จากการเพาะเมล็ด มะม่วงต่างกับผลไม้ชนิดอื่น คือ การที่จะทำให้เมล็ดมะม่วงงอกเร็วขึ้นต้องแกะเอาเปลือกซึ่งหุ้มเมล็ดออก แล้วจึงเอาเมล็ดที่อยู่ภายในมาเพาะ
2.2 การเลือกกิ่งพันธุ์มะม่วง
กิ่งของต้นพันธุ์ดีที่ต้องการจะทาบนั้น ให้เลือกกิ่งที่มีขนาดไล่เลี่ยกับขนาดของต้นตอ จะใหญ่กว่าสักเล็กน้อยก็ได้ แต่อย่าให้ไหญ่กว่ามากนัก กิ่งพันธุ์ควรเป็นกิ่งที่กำลังเจริญเติบโต ไม่แคระแกรน กิ่งมีลักษณะกลม ไม่เป็นเหลี่ยม กิ่งพันธุ์ต้องไม่แก่กว่าต้นตอมากนัก และไม่มีโรคแมลงรบกวน ถ้าได้กิ่งที่ตั้งตรงจะดีมาก เพราะสะดวกในการทำงาน ส่วนกิ่งที่เอนก็ใช้ได้ แต่กิ่งที่ห้อยย้อยลงล่างไม่ควรใช้ทาบกิ่ง ถ้าจำเป็นต้องใช้ ให้ผูกกิ่งให้ตั้งตรงเสียก่อน
2.3 วีธีการทาบกิ่งพันธุ์กับต้นตอ
2.3.1. ใช้มีดเฉือนข้างล่างขึ้นไปหาตาของกิ่งมะม่วง ประมาณ 1-2 มม. ยาวประมาณ 2 นิ้ว
2.3.2. จากนั้นก็ปาดกิ่งมะม่วงแก้วที่เตรียมไว้ยาวประมาณ 2 นิ้วเท่ากัน ในระหว่างขั้นตอนในการเฉือนห้ามให้เนื้อเยื่อสีขาวของมะม่วงสัมผัสกับนิ้วหรือสิ่งต่างๆ เพราะจะทำให้ติดเชื้อโรคและทำให้การทาบไม่ติด3. จากนั้นก็ทาบต้นตอที่เราเตรียมไว้ นำมาทาบประกบกัน ใช้พลาสติกมัดให้รอบจุดที่ทาบ ให้มิดชิดและแน่นหนาไม่ให้น้ำเข้าไปได้ ทาบไว้ประมาณ 1 เดือน ก็จะสังเกตเห็นรากที่งอกอยู่ในถุง จากนั้นตัดกิ่งของต้นมะม่วงที่เรานำต้นตอไปทาบไว้ จากนั้นนำไปใส่ถุงดำรอจำหน่ายหรึอปลูกได้เลย
3. การตอนกิ่ง
3.1เลือกกิ่งต้นไม้ที่ไม่แก่และไม่อ่อนเกินไป
3.2 นำคีมตอนกิ่งหรือมีดคัดเตอร์มาควั่นกิ่ง ยาวประมาณ1นิ้ว แล้วลอกเปลือกออก ถ้าเปลือกลอกออกได้ดี ไม่จำเป็นต้องขูดเนื้อเยื่อเจริญออก
3.3 นำกะปิมาผสมน้ำเล็กน้อย แล้วใช้แปรงทาสีชุบน้ำกะปิมาทาบริเวณที่ควั่นกิ่งไว้ (เทคนิคการเร่งราก ทำให้ออกรากเร็วขึ้น)
3.4 นำตุ้มตอนที่เตรียมไว้ มาตัดถุงเป็นรูปตัวไอ(บานหน้าต่าง) แล้วหุ้มกิ่งที่ควั่นไว้แล้ว
3.5 นำสายรัดเคเบิ้ลไทร์ มารัดตุ้มตอนให้แน่นที่สุด ทั้งด้านบนและด้านล่าง
1.1 เอาเมล็ดมาแกะเอาเปลือกหุ้มเมล็ดออก เพื่อเวลาเพาะแล้วงอกเป็นต้นอ่อนเร็ว ต้นเป็นต้นเดียว ลำต้นตรงสวย
1.2 ใช้กรรไกรตัดกิ่งตัดปลายเมล็ดแกะเอาแต่เมล็ดไปเพาะ
1.3 เมล็ดส่วนโค้งเรียบจะเป็นทางที่ต้นอ่อนโผล่ ส่วนทางที่ขรุขระจะเป็นทางที่รากแก้วแทงลงสู่ดิน
1.4 จึงต้องวางส่วนขรุขระลงสู่ผิวดิน แล้วเอาดินกลบทางส่วนโค้งเรียบ
1.5 กลบดินให้มิดเมล็ด นำไปวางไว้ในที่ๆเหมาะสม ดูแลรดน้ำ
1.6 หนึ่งสัปดาห์ก็จะได้ต้นกล้ามะม่วงที่มีลำต้นตรงสวย
2. การทาบกิ่ง
2.1 การเตรียมต้นตอ
ต้นตอที่จะนำมาทาบกิ่งก็คือ ต้นกล้ามะม่วงที่ได้จากการเพาะเมล็ด มะม่วงต่างกับผลไม้ชนิดอื่น คือ การที่จะทำให้เมล็ดมะม่วงงอกเร็วขึ้นต้องแกะเอาเปลือกซึ่งหุ้มเมล็ดออก แล้วจึงเอาเมล็ดที่อยู่ภายในมาเพาะ
2.2 การเลือกกิ่งพันธุ์มะม่วง
กิ่งของต้นพันธุ์ดีที่ต้องการจะทาบนั้น ให้เลือกกิ่งที่มีขนาดไล่เลี่ยกับขนาดของต้นตอ จะใหญ่กว่าสักเล็กน้อยก็ได้ แต่อย่าให้ไหญ่กว่ามากนัก กิ่งพันธุ์ควรเป็นกิ่งที่กำลังเจริญเติบโต ไม่แคระแกรน กิ่งมีลักษณะกลม ไม่เป็นเหลี่ยม กิ่งพันธุ์ต้องไม่แก่กว่าต้นตอมากนัก และไม่มีโรคแมลงรบกวน ถ้าได้กิ่งที่ตั้งตรงจะดีมาก เพราะสะดวกในการทำงาน ส่วนกิ่งที่เอนก็ใช้ได้ แต่กิ่งที่ห้อยย้อยลงล่างไม่ควรใช้ทาบกิ่ง ถ้าจำเป็นต้องใช้ ให้ผูกกิ่งให้ตั้งตรงเสียก่อน
2.3 วีธีการทาบกิ่งพันธุ์กับต้นตอ
2.3.1. ใช้มีดเฉือนข้างล่างขึ้นไปหาตาของกิ่งมะม่วง ประมาณ 1-2 มม. ยาวประมาณ 2 นิ้ว
2.3.2. จากนั้นก็ปาดกิ่งมะม่วงแก้วที่เตรียมไว้ยาวประมาณ 2 นิ้วเท่ากัน ในระหว่างขั้นตอนในการเฉือนห้ามให้เนื้อเยื่อสีขาวของมะม่วงสัมผัสกับนิ้วหรือสิ่งต่างๆ เพราะจะทำให้ติดเชื้อโรคและทำให้การทาบไม่ติด3. จากนั้นก็ทาบต้นตอที่เราเตรียมไว้ นำมาทาบประกบกัน ใช้พลาสติกมัดให้รอบจุดที่ทาบ ให้มิดชิดและแน่นหนาไม่ให้น้ำเข้าไปได้ ทาบไว้ประมาณ 1 เดือน ก็จะสังเกตเห็นรากที่งอกอยู่ในถุง จากนั้นตัดกิ่งของต้นมะม่วงที่เรานำต้นตอไปทาบไว้ จากนั้นนำไปใส่ถุงดำรอจำหน่ายหรึอปลูกได้เลย
3. การตอนกิ่ง
3.1เลือกกิ่งต้นไม้ที่ไม่แก่และไม่อ่อนเกินไป
3.2 นำคีมตอนกิ่งหรือมีดคัดเตอร์มาควั่นกิ่ง ยาวประมาณ1นิ้ว แล้วลอกเปลือกออก ถ้าเปลือกลอกออกได้ดี ไม่จำเป็นต้องขูดเนื้อเยื่อเจริญออก
3.3 นำกะปิมาผสมน้ำเล็กน้อย แล้วใช้แปรงทาสีชุบน้ำกะปิมาทาบริเวณที่ควั่นกิ่งไว้ (เทคนิคการเร่งราก ทำให้ออกรากเร็วขึ้น)
3.4 นำตุ้มตอนที่เตรียมไว้ มาตัดถุงเป็นรูปตัวไอ(บานหน้าต่าง) แล้วหุ้มกิ่งที่ควั่นไว้แล้ว
3.5 นำสายรัดเคเบิ้ลไทร์ มารัดตุ้มตอนให้แน่นที่สุด ทั้งด้านบนและด้านล่าง
-
1. การเพาะเมล็ด
1.1 เอาเมล็ดมาแกะเอาเปลือกหุ้มเมล็ดออก เพื่อเวลาเพาะแล้วงอกเป็นต้นอ่อนเร็ว ต้นเป็นต้นเดียว ลำต้นตรงสวย
1.2 ใช้กรรไกรตัดกิ่งตัดปลายเมล็ดแกะเอาแต่เมล็ดไปเพาะ
1.3 เมล็ดส่วนโค้งเรียบจะเป็นทางที่ต้นอ่อนโผล่ ส่วนทางที่ขรุขระจะเป็นทางที่รากแก้วแทงลงสู่ดิน
1.4 จึงต้องวางส่วนขรุขระลงสู่ผิวดิน แล้วเอาดินกลบทางส่วนโค้งเรียบ
1.5 กลบดินให้มิดเมล็ด นำไปวางไว้ในที่ๆเหมาะสม ดูแลรดน้ำ
1.6 หนึ่งสัปดาห์ก็จะได้ต้นกล้ามะม่วงที่มีลำต้นตรงสวย
2. การทาบกิ่ง
2.1 การเตรียมต้นตอ
ต้นตอที่จะนำมาทาบกิ่งก็คือ ต้นกล้ามะม่วงที่ได้จากการเพาะเมล็ด มะม่วงต่างกับผลไม้ชนิดอื่น คือ การที่จะทำให้เมล็ดมะม่วงงอกเร็วขึ้นต้องแกะเอาเปลือกซึ่งหุ้มเมล็ดออก แล้วจึงเอาเมล็ดที่อยู่ภายในมาเพาะ
2.2 การเลือกกิ่งพันธุ์มะม่วง
กิ่งของต้นพันธุ์ดีที่ต้องการจะทาบนั้น ให้เลือกกิ่งที่มีขนาดไล่เลี่ยกับขนาดของต้นตอ จะใหญ่กว่าสักเล็กน้อยก็ได้ แต่อย่าให้ไหญ่กว่ามากนัก กิ่งพันธุ์ควรเป็นกิ่งที่กำลังเจริญเติบโต ไม่แคระแกรน กิ่งมีลักษณะกลม ไม่เป็นเหลี่ยม กิ่งพันธุ์ต้องไม่แก่กว่าต้นตอมากนัก และไม่มีโรคแมลงรบกวน ถ้าได้กิ่งที่ตั้งตรงจะดีมาก เพราะสะดวกในการทำงาน ส่วนกิ่งที่เอนก็ใช้ได้ แต่กิ่งที่ห้อยย้อยลงล่างไม่ควรใช้ทาบกิ่ง ถ้าจำเป็นต้องใช้ ให้ผูกกิ่งให้ตั้งตรงเสียก่อน
2.3 วีธีการทาบกิ่งพันธุ์กับต้นตอ
2.3.1. ใช้มีดเฉือนข้างล่างขึ้นไปหาตาของกิ่งมะม่วง ประมาณ 1-2 มม. ยาวประมาณ 2 นิ้ว
2.3.2. จากนั้นก็ปาดกิ่งมะม่วงแก้วที่เตรียมไว้ยาวประมาณ 2 นิ้วเท่ากัน ในระหว่างขั้นตอนในการเฉือนห้ามให้เนื้อเยื่อสีขาวของมะม่วงสัมผัสกับนิ้วหรือสิ่งต่างๆ เพราะจะทำให้ติดเชื้อโรคและทำให้การทาบไม่ติด3. จากนั้นก็ทาบต้นตอที่เราเตรียมไว้ นำมาทาบประกบกัน ใช้พลาสติกมัดให้รอบจุดที่ทาบ ให้มิดชิดและแน่นหนาไม่ให้น้ำเข้าไปได้ ทาบไว้ประมาณ 1 เดือน ก็จะสังเกตเห็นรากที่งอกอยู่ในถุง จากนั้นตัดกิ่งของต้นมะม่วงที่เรานำต้นตอไปทาบไว้ จากนั้นนำไปใส่ถุงดำรอจำหน่ายหรึอปลูกได้เลย
3. การตอนกิ่ง
3.1เลือกกิ่งต้นไม้ที่ไม่แก่และไม่อ่อนเกินไป
3.2 นำคีมตอนกิ่งหรือมีดคัดเตอร์มาควั่นกิ่ง ยาวประมาณ1นิ้ว แล้วลอกเปลือกออก ถ้าเปลือกลอกออกได้ดี ไม่จำเป็นต้องขูดเนื้อเยื่อเจริญออก
3.3 นำกะปิมาผสมน้ำเล็กน้อย แล้วใช้แปรงทาสีชุบน้ำกะปิมาทาบริเวณที่ควั่นกิ่งไว้ (เทคนิคการเร่งราก ทำให้ออกรากเร็วขึ้น)
3.4 นำตุ้มตอนที่เตรียมไว้ มาตัดถุงเป็นรูปตัวไอ(บานหน้าต่าง) แล้วหุ้มกิ่งที่ควั่นไว้แล้ว
3.5 นำสายรัดเคเบิ้ลไทร์ มารัดตุ้มตอนให้แน่นที่สุด ทั้งด้านบนและด้านล่าง
1.1 เอาเมล็ดมาแกะเอาเปลือกหุ้มเมล็ดออก เพื่อเวลาเพาะแล้วงอกเป็นต้นอ่อนเร็ว ต้นเป็นต้นเดียว ลำต้นตรงสวย
1.2 ใช้กรรไกรตัดกิ่งตัดปลายเมล็ดแกะเอาแต่เมล็ดไปเพาะ
1.3 เมล็ดส่วนโค้งเรียบจะเป็นทางที่ต้นอ่อนโผล่ ส่วนทางที่ขรุขระจะเป็นทางที่รากแก้วแทงลงสู่ดิน
1.4 จึงต้องวางส่วนขรุขระลงสู่ผิวดิน แล้วเอาดินกลบทางส่วนโค้งเรียบ
1.5 กลบดินให้มิดเมล็ด นำไปวางไว้ในที่ๆเหมาะสม ดูแลรดน้ำ
1.6 หนึ่งสัปดาห์ก็จะได้ต้นกล้ามะม่วงที่มีลำต้นตรงสวย
2. การทาบกิ่ง
2.1 การเตรียมต้นตอ
ต้นตอที่จะนำมาทาบกิ่งก็คือ ต้นกล้ามะม่วงที่ได้จากการเพาะเมล็ด มะม่วงต่างกับผลไม้ชนิดอื่น คือ การที่จะทำให้เมล็ดมะม่วงงอกเร็วขึ้นต้องแกะเอาเปลือกซึ่งหุ้มเมล็ดออก แล้วจึงเอาเมล็ดที่อยู่ภายในมาเพาะ
2.2 การเลือกกิ่งพันธุ์มะม่วง
กิ่งของต้นพันธุ์ดีที่ต้องการจะทาบนั้น ให้เลือกกิ่งที่มีขนาดไล่เลี่ยกับขนาดของต้นตอ จะใหญ่กว่าสักเล็กน้อยก็ได้ แต่อย่าให้ไหญ่กว่ามากนัก กิ่งพันธุ์ควรเป็นกิ่งที่กำลังเจริญเติบโต ไม่แคระแกรน กิ่งมีลักษณะกลม ไม่เป็นเหลี่ยม กิ่งพันธุ์ต้องไม่แก่กว่าต้นตอมากนัก และไม่มีโรคแมลงรบกวน ถ้าได้กิ่งที่ตั้งตรงจะดีมาก เพราะสะดวกในการทำงาน ส่วนกิ่งที่เอนก็ใช้ได้ แต่กิ่งที่ห้อยย้อยลงล่างไม่ควรใช้ทาบกิ่ง ถ้าจำเป็นต้องใช้ ให้ผูกกิ่งให้ตั้งตรงเสียก่อน
2.3 วีธีการทาบกิ่งพันธุ์กับต้นตอ
2.3.1. ใช้มีดเฉือนข้างล่างขึ้นไปหาตาของกิ่งมะม่วง ประมาณ 1-2 มม. ยาวประมาณ 2 นิ้ว
2.3.2. จากนั้นก็ปาดกิ่งมะม่วงแก้วที่เตรียมไว้ยาวประมาณ 2 นิ้วเท่ากัน ในระหว่างขั้นตอนในการเฉือนห้ามให้เนื้อเยื่อสีขาวของมะม่วงสัมผัสกับนิ้วหรือสิ่งต่างๆ เพราะจะทำให้ติดเชื้อโรคและทำให้การทาบไม่ติด3. จากนั้นก็ทาบต้นตอที่เราเตรียมไว้ นำมาทาบประกบกัน ใช้พลาสติกมัดให้รอบจุดที่ทาบ ให้มิดชิดและแน่นหนาไม่ให้น้ำเข้าไปได้ ทาบไว้ประมาณ 1 เดือน ก็จะสังเกตเห็นรากที่งอกอยู่ในถุง จากนั้นตัดกิ่งของต้นมะม่วงที่เรานำต้นตอไปทาบไว้ จากนั้นนำไปใส่ถุงดำรอจำหน่ายหรึอปลูกได้เลย
3. การตอนกิ่ง
3.1เลือกกิ่งต้นไม้ที่ไม่แก่และไม่อ่อนเกินไป
3.2 นำคีมตอนกิ่งหรือมีดคัดเตอร์มาควั่นกิ่ง ยาวประมาณ1นิ้ว แล้วลอกเปลือกออก ถ้าเปลือกลอกออกได้ดี ไม่จำเป็นต้องขูดเนื้อเยื่อเจริญออก
3.3 นำกะปิมาผสมน้ำเล็กน้อย แล้วใช้แปรงทาสีชุบน้ำกะปิมาทาบริเวณที่ควั่นกิ่งไว้ (เทคนิคการเร่งราก ทำให้ออกรากเร็วขึ้น)
3.4 นำตุ้มตอนที่เตรียมไว้ มาตัดถุงเป็นรูปตัวไอ(บานหน้าต่าง) แล้วหุ้มกิ่งที่ควั่นไว้แล้ว
3.5 นำสายรัดเคเบิ้ลไทร์ มารัดตุ้มตอนให้แน่นที่สุด ทั้งด้านบนและด้านล่าง
-
ปลูกได้ในดินทั่วไป เหมาะจะปลูกเพื่อเก็บผลรับประทานในครัวเรือน หรือปลูกเพื่อเก็บผลขาย ขุดหลุมกว้างหนึ่งฟุต ลึกเท่ากับปากถุงดำของกิ่งตอนหรือปากกระถาง จากนั้นนำต้นลงปลูกโดยรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกกลบหน้าดินให้แน่น รดน้ำพอชุ่มเช้าเย็น พร้อมบำรุงปุ๋ยสม่ำเสมอเดือนละครั้ง เมื่อต้นโตมีดอกและติดผลจะคุ้มค่ามาก
-
ปลูกได้ในดินทั่วไป เหมาะจะปลูกเพื่อเก็บผลรับประทานในครัวเรือน หรือปลูกเพื่อเก็บผลขาย ขุดหลุมกว้างหนึ่งฟุต ลึกเท่ากับปากถุงดำของกิ่งตอนหรือปากกระถาง จากนั้นนำต้นลงปลูกโดยรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกกลบหน้าดินให้แน่น รดน้ำพอชุ่มเช้าเย็น พร้อมบำรุงปุ๋ยสม่ำเสมอเดือนละครั้ง เมื่อต้นโตมีดอกและติดผลจะคุ้มค่ามาก
-
การเพาะเมล็ด การตอน การติดตา และการทาบกิ่ง
-
การเพาะเมล็ด การตอน การติดตา และการทาบกิ่ง
แหล่งที่พบภายในประเทศ :
-
กำแพงเพชร
-
สุพรรณบุรี
-
สงขลา
-
สุรินทร์
-
ชุมพร
-
สุรินทร์
-
ชุมพร
-
ตาก
-
ตาก
-
ลำปาง
-
สมุทรปราการ
-
นนทบุรี
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกะมัง
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
-
ไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดกลาง มีอายุประมาณ 15-20 ปี ลำต้นสูงประมาณ 10-15 เมตร ลำต้นแตกกิ่งน้อย แลดูเป็นทรงพุ่มโปร่ง เปลือกลำต้นสีดำอมเทา
ข้อมูลภูมิปัญญา
-
มะม่วง ไม้ผลเมืองร้อน :: มะม่วง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Mangifera Indica) เป็นไม้ผลเมืองร้อน เชื่อว่าเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคอินเดีย บังกลาเทศ และพม่า ซึ่งเห็นได้จากความหลากหลายทางพันธุกรรมและร่องรอยฟอสซิลจำนวนมาก นับย้อนไปได้ถึง 25 – 30 ล้านปีก่อน มะม่วงมีความแตกต่างประมาณ 49 สายพันธุ์กระจายอยู่ตามประเทศในเขตร้อนตั้งแต่อินเดียไปจนถึงฟิลิปปินส์ จากนั้นจึงแพร่หลายไปทั่วโลก ในยุคแรกมีการขยายพันธุ์มะม่วงโดยการเพาะเมล็ด ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ใหม่ขึ้นมามากมาย จนกระทั่งระยะหลัง มะม่วงถูกขยายพันธุ์โดยการทาบกิ่งและเสียบยอด เพื่อให้ผลผลิตตรงตามพันธุ์ มะม่วงเป็นผลไม้เศรษฐกิจสำคัญของไทย รองลงมาจาก ทุเรียน
ที่มาของข้อมูล
-
รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการพื้นที่ชุ่มน้าของประเทศไทย สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, 2561
-
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
-
องค์การสวนพฤกษศาสตร์
-
กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
-
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
-
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
-
สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน)
-
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช