ข้อมูลสิ่งมีชีวิต
วันที่อัพเดท : 12 มิ.ย. 2566 12:11 น.
วันที่สร้าง: 12 มิ.ย. 2566 12:11 น.
ข้อมูลทั่วไป
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา :
-
มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของจีน ไทย อินเดีย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นตรง มีความสูงประมาณ 15-30 เมตร ลักษณะเป็นทรงพุ่มโปร่งเป็นรูปกรวยคว่ำ ค่อนข้างโปร่ง แตกกิ่งจำนวนมากที่ยอด ที่เปลือกมีสีเทาอมขาวและมีกลิ่นฉุน มีลักษณะใบเป็นใบเดี่ยว ใบใหญ่สีเขียวเป็นมัน ลักษณะคล้ายรูปรีแกมขอบขนาน กว้างประมาณ 4-10 เซนติเมตร และยาวประมาณ 10-25 เซนติเมตร โคนใบสอบ ปลายใบแหลม เนื้อใบบาง ใบอ่อนจะมีขน ส่วนใบแก่จะเกลี้ยง ใบมีเส้นใบประมาณ 16-20 คู่ และก้านใบยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร โคนก้านใบป่อง ดอกมีลักษณะเป็นดอกเดี่ยวสีเหลืองอมแสด ดอกมีกลิ่นหอมแรง ออกดอกตามซอกใบใกล้ ๆ ปลายกิ่ง ดอกตั้งขึ้น ดอกตูมเป็นรูปกระสวย มีแผ่นสีเขียวคลุมอยู่และจะหลุดไปเมื่อดอกบาน ที่กลีบดอกและกลีบเลี้ยงจะมีลักษณะเหมือนกัน มีจำนวน 12-15 กลีบ แต่ละกลีบรูปยาวรีแกมรูปหอก กว้างประมาณ 1-1.5 เซนติเมตรและมีความยาวประมาณ 4-4.5 เซนติเมตร ดอกจะเริ่มแย้มและส่งกลิ่นหอมในช่วงพลบค่ำ และในเช้าวันถัดมากลีบดอกก็จะกางออกจากกัน และร่วงหล่นในช่วงเย็น ดอกจำปาสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี แต่จะมีมากหน่อยในช่วงต้นฤดูฝน แต่ต้องใช้เวลาปลูกนานกว่า 3 ปีจึงจะออกดอก จะออกผลเป็นกลุ่ม มีความยาวประมาณ 6-9 เซนติเมตร ผลย่อยค่อนข้างกลม มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร สามารถติดผลได้ดี มีเมล็ดหลายเมล็ด มีสีดำ เมล็ดค่อนข้างกลม เปลือกหุ้มเมล็ดสีแดงแสด มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5 เซนติเมตร
-
มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของจีน ไทย อินเดีย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นตรง มีความสูงประมาณ 15-30 เมตร ลักษณะเป็นทรงพุ่มโปร่งเป็นรูปกรวยคว่ำ ค่อนข้างโปร่ง แตกกิ่งจำนวนมากที่ยอด ที่เปลือกมีสีเทาอมขาวและมีกลิ่นฉุน มีลักษณะใบเป็นใบเดี่ยว ใบใหญ่สีเขียวเป็นมัน ลักษณะคล้ายรูปรีแกมขอบขนาน กว้างประมาณ 4-10 เซนติเมตร และยาวประมาณ 10-25 เซนติเมตร โคนใบสอบ ปลายใบแหลม เนื้อใบบาง ใบอ่อนจะมีขน ส่วนใบแก่จะเกลี้ยง ใบมีเส้นใบประมาณ 16-20 คู่ และก้านใบยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร โคนก้านใบป่อง ดอกมีลักษณะเป็นดอกเดี่ยวสีเหลืองอมแสด ดอกมีกลิ่นหอมแรง ออกดอกตามซอกใบใกล้ ๆ ปลายกิ่ง ดอกตั้งขึ้น ดอกตูมเป็นรูปกระสวย มีแผ่นสีเขียวคลุมอยู่และจะหลุดไปเมื่อดอกบาน ที่กลีบดอกและกลีบเลี้ยงจะมีลักษณะเหมือนกัน มีจำนวน 12-15 กลีบ แต่ละกลีบรูปยาวรีแกมรูปหอก กว้างประมาณ 1-1.5 เซนติเมตรและมีความยาวประมาณ 4-4.5 เซนติเมตร ดอกจะเริ่มแย้มและส่งกลิ่นหอมในช่วงพลบค่ำ และในเช้าวันถัดมากลีบดอกก็จะกางออกจากกัน และร่วงหล่นในช่วงเย็น ดอกจำปาสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี แต่จะมีมากหน่อยในช่วงต้นฤดูฝน แต่ต้องใช้เวลาปลูกนานกว่า 3 ปีจึงจะออกดอก จะออกผลเป็นกลุ่ม มีความยาวประมาณ 6-9 เซนติเมตร ผลย่อยค่อนข้างกลม มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร สามารถติดผลได้ดี มีเมล็ดหลายเมล็ด มีสีดำ เมล็ดค่อนข้างกลม เปลือกหุ้มเมล็ดสีแดงแสด มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5 เซนติเมตร
-
มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของจีน ไทย อินเดีย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นตรง มีความสูงประมาณ 15-30 เมตร ลักษณะเป็นทรงพุ่มโปร่งเป็นรูปกรวยคว่ำ ค่อนข้างโปร่ง แตกกิ่งจำนวนมากที่ยอด ที่เปลือกมีสีเทาอมขาวและมีกลิ่นฉุน มีลักษณะใบเป็นใบเดี่ยว ใบใหญ่สีเขียวเป็นมัน ลักษณะคล้ายรูปรีแกมขอบขนาน กว้างประมาณ 4-10 เซนติเมตร และยาวประมาณ 10-25 เซนติเมตร โคนใบสอบ ปลายใบแหลม เนื้อใบบาง ใบอ่อนจะมีขน ส่วนใบแก่จะเกลี้ยง ใบมีเส้นใบประมาณ 16-20 คู่ และก้านใบยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร โคนก้านใบป่อง ดอกมีลักษณะเป็นดอกเดี่ยวสีเหลืองอมแสด ดอกมีกลิ่นหอมแรง ออกดอกตามซอกใบใกล้ ๆ ปลายกิ่ง ดอกตั้งขึ้น ดอกตูมเป็นรูปกระสวย มีแผ่นสีเขียวคลุมอยู่และจะหลุดไปเมื่อดอกบาน ที่กลีบดอกและกลีบเลี้ยงจะมีลักษณะเหมือนกัน มีจำนวน 12-15 กลีบ แต่ละกลีบรูปยาวรีแกมรูปหอก กว้างประมาณ 1-1.5 เซนติเมตรและมีความยาวประมาณ 4-4.5 เซนติเมตร ดอกจะเริ่มแย้มและส่งกลิ่นหอมในช่วงพลบค่ำ และในเช้าวันถัดมากลีบดอกก็จะกางออกจากกัน และร่วงหล่นในช่วงเย็น ดอกจำปาสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี แต่จะมีมากหน่อยในช่วงต้นฤดูฝน แต่ต้องใช้เวลาปลูกนานกว่า 3 ปีจึงจะออกดอก จะออกผลเป็นกลุ่ม มีความยาวประมาณ 6-9 เซนติเมตร ผลย่อยค่อนข้างกลม มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร สามารถติดผลได้ดี มีเมล็ดหลายเมล็ด มีสีดำ เมล็ดค่อนข้างกลม เปลือกหุ้มเมล็ดสีแดงแสด มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5 เซนติเมตร
-
มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของจีน ไทย อินเดีย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นตรง มีความสูงประมาณ 15-30 เมตร ลักษณะเป็นทรงพุ่มโปร่งเป็นรูปกรวยคว่ำ ค่อนข้างโปร่ง แตกกิ่งจำนวนมากที่ยอด ที่เปลือกมีสีเทาอมขาวและมีกลิ่นฉุน มีลักษณะใบเป็นใบเดี่ยว ใบใหญ่สีเขียวเป็นมัน ลักษณะคล้ายรูปรีแกมขอบขนาน กว้างประมาณ 4-10 เซนติเมตร และยาวประมาณ 10-25 เซนติเมตร โคนใบสอบ ปลายใบแหลม เนื้อใบบาง ใบอ่อนจะมีขน ส่วนใบแก่จะเกลี้ยง ใบมีเส้นใบประมาณ 16-20 คู่ และก้านใบยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร โคนก้านใบป่อง ดอกมีลักษณะเป็นดอกเดี่ยวสีเหลืองอมแสด ดอกมีกลิ่นหอมแรง ออกดอกตามซอกใบใกล้ ๆ ปลายกิ่ง ดอกตั้งขึ้น ดอกตูมเป็นรูปกระสวย มีแผ่นสีเขียวคลุมอยู่และจะหลุดไปเมื่อดอกบาน ที่กลีบดอกและกลีบเลี้ยงจะมีลักษณะเหมือนกัน มีจำนวน 12-15 กลีบ แต่ละกลีบรูปยาวรีแกมรูปหอก กว้างประมาณ 1-1.5 เซนติเมตรและมีความยาวประมาณ 4-4.5 เซนติเมตร ดอกจะเริ่มแย้มและส่งกลิ่นหอมในช่วงพลบค่ำ และในเช้าวันถัดมากลีบดอกก็จะกางออกจากกัน และร่วงหล่นในช่วงเย็น ดอกจำปาสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี แต่จะมีมากหน่อยในช่วงต้นฤดูฝน แต่ต้องใช้เวลาปลูกนานกว่า 3 ปีจึงจะออกดอก จะออกผลเป็นกลุ่ม มีความยาวประมาณ 6-9 เซนติเมตร ผลย่อยค่อนข้างกลม มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร สามารถติดผลได้ดี มีเมล็ดหลายเมล็ด มีสีดำ เมล็ดค่อนข้างกลม เปลือกหุ้มเมล็ดสีแดงแสด มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5 เซนติเมตร
-
ลำต้น ไม้ยืนต้น ขนาดกลางถึงใหญ่ ลำต้นตรง ทรงพุ่มโปร่ง เปลือกต้นสีเทาอมขาว
ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายแหลม โคนสอบ ขอบเรียบ แผ่นใบบาง สีเขียวเข้ม ใบอ่อนมีขนสั้นๆ ใบแก่ผิวเกลี้ยง
ดอก ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกสีเหลืองอมส้ม ดอกตูมรูปกระสวย กลีบเลี้ยงและกลีบดอกรูปใบหอก ปลายแหลม ซ้อนกันหลายชั้น มี 12-15 กลีบ ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดทั้งปี
ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายแหลม โคนสอบ ขอบเรียบ แผ่นใบบาง สีเขียวเข้ม ใบอ่อนมีขนสั้นๆ ใบแก่ผิวเกลี้ยง
ดอก ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกสีเหลืองอมส้ม ดอกตูมรูปกระสวย กลีบเลี้ยงและกลีบดอกรูปใบหอก ปลายแหลม ซ้อนกันหลายชั้น มี 12-15 กลีบ ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดทั้งปี
-
ลำต้น ไม้ยืนต้น ขนาดกลางถึงใหญ่ ลำต้นตรง ทรงพุ่มโปร่ง เปลือกต้นสีเทาอมขาว
ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายแหลม โคนสอบ ขอบเรียบ แผ่นใบบาง สีเขียวเข้ม ใบอ่อนมีขนสั้นๆ ใบแก่ผิวเกลี้ยง
ดอก ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกสีเหลืองอมส้ม ดอกตูมรูปกระสวย กลีบเลี้ยงและกลีบดอกรูปใบหอก ปลายแหลม ซ้อนกันหลายชั้น มี 12-15 กลีบ ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดทั้งปี
ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายแหลม โคนสอบ ขอบเรียบ แผ่นใบบาง สีเขียวเข้ม ใบอ่อนมีขนสั้นๆ ใบแก่ผิวเกลี้ยง
ดอก ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกสีเหลืองอมส้ม ดอกตูมรูปกระสวย กลีบเลี้ยงและกลีบดอกรูปใบหอก ปลายแหลม ซ้อนกันหลายชั้น มี 12-15 กลีบ ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดทั้งปี
-
ลำต้น ไม้ยืนต้น ขนาดกลางถึงใหญ่ ลำต้นตรง ทรงพุ่มโปร่ง เปลือกต้นสีเทาอมขาว
ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายแหลม โคนสอบ ขอบเรียบ แผ่นใบบาง สีเขียวเข้ม ใบอ่อนมีขนสั้นๆ ใบแก่ผิวเกลี้ยง
ดอก ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกสีเหลืองอมส้ม ดอกตูมรูปกระสวย กลีบเลี้ยงและกลีบดอกรูปใบหอก ปลายแหลม ซ้อนกันหลายชั้น มี 12-15 กลีบ ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดทั้งปี
ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายแหลม โคนสอบ ขอบเรียบ แผ่นใบบาง สีเขียวเข้ม ใบอ่อนมีขนสั้นๆ ใบแก่ผิวเกลี้ยง
ดอก ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกสีเหลืองอมส้ม ดอกตูมรูปกระสวย กลีบเลี้ยงและกลีบดอกรูปใบหอก ปลายแหลม ซ้อนกันหลายชั้น มี 12-15 กลีบ ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดทั้งปี
-
ลำต้น ไม้ยืนต้น ขนาดกลางถึงใหญ่ ลำต้นตรง ทรงพุ่มโปร่ง เปลือกต้นสีเทาอมขาว
ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายแหลม โคนสอบ ขอบเรียบ แผ่นใบบาง สีเขียวเข้ม ใบอ่อนมีขนสั้นๆ ใบแก่ผิวเกลี้ยง
ดอก ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกสีเหลืองอมส้ม ดอกตูมรูปกระสวย กลีบเลี้ยงและกลีบดอกรูปใบหอก ปลายแหลม ซ้อนกันหลายชั้น มี 12-15 กลีบ ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดทั้งปี
ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายแหลม โคนสอบ ขอบเรียบ แผ่นใบบาง สีเขียวเข้ม ใบอ่อนมีขนสั้นๆ ใบแก่ผิวเกลี้ยง
ดอก ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกสีเหลืองอมส้ม ดอกตูมรูปกระสวย กลีบเลี้ยงและกลีบดอกรูปใบหอก ปลายแหลม ซ้อนกันหลายชั้น มี 12-15 กลีบ ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดทั้งปี
-
มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของจีน ไทย อินเดีย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย โดยจัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ลำต้นตรง มีความสูงประมาณ 15-30 เมตร ลักษณะเป็นทรงพุ่มโปร่งเป็นรูปกรวยคว่ำ ค่อนข้างโปร่ง แตกกิ่งจำนวนมากที่ยอด ที่เปลือกมีสีเทาอมขาวและมีกลิ่นฉุน มีลักษณะใบเป็นใบเดี่ยว ใบใหญ่สีเขียวเป็นมัน ลักษณะคล้ายรูปรีแกมขอบขนาน กว้างประมาณ 4-10 เซนติเมตร และยาวประมาณ 10-25 เซนติเมตร โคนใบสอบ ปลายใบแหลม เนื้อใบบาง ใบอ่อนจะมีขน ส่วนใบแก่จะเกลี้ยง ใบมีเส้นใบประมาณ 16-20 คู่ และก้านใบยาวประมาณ 2-4 เซนติเมตร โคนก้านใบป่อง ดอกมีลักษณะเป็นดอกเดี่ยวสีเหลืองอมแสด ดอกมีกลิ่นหอมแรง ออกดอกตามซอกใบใกล้ ๆ ปลายกิ่ง ดอกตั้งขึ้น ดอกตูมเป็นรูปกระสวย มีแผ่นสีเขียวคลุมอยู่และจะหลุดไปเมื่อดอกบาน ที่กลีบดอกและกลีบเลี้ยงจะมีลักษณะเหมือนกัน มีจำนวน 12-15 กลีบ แต่ละกลีบรูปยาวรีแกมรูปหอก กว้างประมาณ 1-1.5 เซนติเมตรและมีความยาวประมาณ 4-4.5 เซนติเมตร ดอกจะเริ่มแย้มและส่งกลิ่นหอมในช่วงพลบค่ำ และในเช้าวันถัดมากลีบดอกก็จะกางออกจากกัน และร่วงหล่นในช่วงเย็น ดอกจำปาสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี แต่จะมีมากหน่อยในช่วงต้นฤดูฝน แต่ต้องใช้เวลาปลูกนานกว่า 3 ปีจึงจะออกดอก จะออกผลเป็นกลุ่ม มีความยาวประมาณ 6-9 เซนติเมตร ผลย่อยค่อนข้างกลม มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร สามารถติดผลได้ดี มีเมล็ดหลายเมล็ด มีสีดำ เมล็ดค่อนข้างกลม เปลือกหุ้มเมล็ดสีแดงแสด มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5 เซนติเมตร
-
ลำต้น ไม้ยืนต้น ขนาดกลางถึงใหญ่ ลำต้นตรง ทรงพุ่มโปร่ง เปลือกต้นสีเทาอมขาว
ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายแหลม โคนสอบ ขอบเรียบ แผ่นใบบาง สีเขียวเข้ม ใบอ่อนมีขนสั้นๆ ใบแก่ผิวเกลี้ยง
ดอก ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกสีเหลืองอมส้ม ดอกตูมรูปกระสวย กลีบเลี้ยงและกลีบดอกรูปใบหอก ปลายแหลม ซ้อนกันหลายชั้น มี 12-15 กลีบ ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดทั้งปี
ใบ ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปรีแกมรูปขอบขนาน ปลายแหลม โคนสอบ ขอบเรียบ แผ่นใบบาง สีเขียวเข้ม ใบอ่อนมีขนสั้นๆ ใบแก่ผิวเกลี้ยง
ดอก ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกสีเหลืองอมส้ม ดอกตูมรูปกระสวย กลีบเลี้ยงและกลีบดอกรูปใบหอก ปลายแหลม ซ้อนกันหลายชั้น มี 12-15 กลีบ ดอกมีกลิ่นหอม ออกดอกตลอดทั้งปี
การขยายพันธุ์ :
-
1. การทาบกิ่ง
2. การเพาะเมล็ด
3. การตอนกิ่ง
2. การเพาะเมล็ด
3. การตอนกิ่ง
-
1. การทาบกิ่ง
2. การเพาะเมล็ด
3. การตอนกิ่ง
2. การเพาะเมล็ด
3. การตอนกิ่ง
-
1. การทาบกิ่ง
2. การเพาะเมล็ด
3. การตอนกิ่ง
2. การเพาะเมล็ด
3. การตอนกิ่ง
-
1. การทาบกิ่ง
2. การเพาะเมล็ด
3. การตอนกิ่ง
2. การเพาะเมล็ด
3. การตอนกิ่ง
-
เพาะเมล็ด ทาบกิ่ง ตอนกิ่ง
-
เพาะเมล็ด ทาบกิ่ง ตอนกิ่ง
-
เพาะเมล็ด ทาบกิ่ง ตอนกิ่ง
-
เพาะเมล็ด ทาบกิ่ง ตอนกิ่ง
-
1. การทาบกิ่ง
2. การเพาะเมล็ด
3. การตอนกิ่ง
2. การเพาะเมล็ด
3. การตอนกิ่ง
-
เพาะเมล็ด ทาบกิ่ง ตอนกิ่ง
แหล่งที่พบภายในประเทศ :
-
นครศรีธรรมราช
-
ปัตตานี
-
นครศรีธรรมราช
-
เลย
-
สุราษฎร์ธานี, ระนอง
-
สุราษฎร์ธานี
-
ชุมพร, ระนอง
-
พะเยา, น่าน
-
ระนอง, ชุมพร
-
ระนอง, ชุมพร
-
เชียงใหม่
-
เชียงใหม่
-
ชุมพร
-
เชียงใหม่
-
เชียงใหม่
-
ชุมพร
รายละเอียดอื่นๆ ของแหล่งที่พบ :
-
อุทยานแห่งชาติ เขานัน
-
อุทยานแห่งชาติ น้ำตกทรายขาว
-
อุทยานแห่งชาติ น้ำตกโยง
-
อุทยานแห่งชาติ ภูสวนทราย
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า คลองนาคา
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า คลองยัน
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ควนแม่ยายหม่อน
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดอยผาช้าง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งระยะ-นาสัก
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งระยะ-นาสัก
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สะเมิง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สะเมิง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรมหลวงชุมพร
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สะเมิง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สะเมิง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรมหลวงชุมพร
ข้อมูลการนำไปใช้ประโยชน์
รายละเอียดการนำมาใช้ประโยชน์ :
-
1. ดอกใช้ในการแต่งกลิ่นอาหาร
2. นิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ ให้ความหอมและความสวยงาม และยังเป็นต้นไม้ให้ร่มเงาในสนามได้ดีมากชนิดหนึ่งอีกด้วย
3. น้ำมันจากดอกจำปา สามารถนำมาใช้แต่งกลิ่นเครื่องสำอางได้
4. ไม้จากต้นจำปามีสีเหลืองถึงสีน้ำตาลอ่อน มีความเหนียว เป็นมัน ทนปลวกได้ดี เลื่อยไสตกแต่งได้ง่าย จึงนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย เช่น การสร้างบ้านเรือน ต่อเรือ ใช้ทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ ทำเครื่องมือ เครื่องกลึง หีบใส่ของ เครื่องแกะสลักต่าง ๆ รวมไปถึงของเล่นเด็ก ฯลฯ
-
1. ดอกใช้ในการแต่งกลิ่นอาหาร
2. นิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ ให้ความหอมและความสวยงาม และยังเป็นต้นไม้ให้ร่มเงาในสนามได้ดีมากชนิดหนึ่งอีกด้วย
3. น้ำมันจากดอกจำปา สามารถนำมาใช้แต่งกลิ่นเครื่องสำอางได้
4. ไม้จากต้นจำปามีสีเหลืองถึงสีน้ำตาลอ่อน มีความเหนียว เป็นมัน ทนปลวกได้ดี เลื่อยไสตกแต่งได้ง่าย จึงนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย เช่น การสร้างบ้านเรือน ต่อเรือ ใช้ทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ ทำเครื่องมือ เครื่องกลึง หีบใส่ของ เครื่องแกะสลักต่าง ๆ รวมไปถึงของเล่นเด็ก ฯลฯ
-
1. ดอกใช้ในการแต่งกลิ่นอาหาร
2. นิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ ให้ความหอมและความสวยงาม และยังเป็นต้นไม้ให้ร่มเงาในสนามได้ดีมากชนิดหนึ่งอีกด้วย
3. น้ำมันจากดอกจำปา สามารถนำมาใช้แต่งกลิ่นเครื่องสำอางได้
4. ไม้จากต้นจำปามีสีเหลืองถึงสีน้ำตาลอ่อน มีความเหนียว เป็นมัน ทนปลวกได้ดี เลื่อยไสตกแต่งได้ง่าย จึงนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย เช่น การสร้างบ้านเรือน ต่อเรือ ใช้ทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ ทำเครื่องมือ เครื่องกลึง หีบใส่ของ เครื่องแกะสลักต่าง ๆ รวมไปถึงของเล่นเด็ก ฯลฯ
-
1. ดอกใช้ในการแต่งกลิ่นอาหาร
2. นิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ ให้ความหอมและความสวยงาม และยังเป็นต้นไม้ให้ร่มเงาในสนามได้ดีมากชนิดหนึ่งอีกด้วย
3. น้ำมันจากดอกจำปา สามารถนำมาใช้แต่งกลิ่นเครื่องสำอางได้
4. ไม้จากต้นจำปามีสีเหลืองถึงสีน้ำตาลอ่อน มีความเหนียว เป็นมัน ทนปลวกได้ดี เลื่อยไสตกแต่งได้ง่าย จึงนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย เช่น การสร้างบ้านเรือน ต่อเรือ ใช้ทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ ทำเครื่องมือ เครื่องกลึง หีบใส่ของ เครื่องแกะสลักต่าง ๆ รวมไปถึงของเล่นเด็ก ฯลฯ
-
1. ดอกใช้ในการแต่งกลิ่นอาหาร
2. นิยมปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับ ให้ความหอมและความสวยงาม และยังเป็นต้นไม้ให้ร่มเงาในสนามได้ดีมากชนิดหนึ่งอีกด้วย
3. น้ำมันจากดอกจำปา สามารถนำมาใช้แต่งกลิ่นเครื่องสำอางได้
4. ไม้จากต้นจำปามีสีเหลืองถึงสีน้ำตาลอ่อน มีความเหนียว เป็นมัน ทนปลวกได้ดี เลื่อยไสตกแต่งได้ง่าย จึงนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย เช่น การสร้างบ้านเรือน ต่อเรือ ใช้ทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ ทำเครื่องมือ เครื่องกลึง หีบใส่ของ เครื่องแกะสลักต่าง ๆ รวมไปถึงของเล่นเด็ก ฯลฯ
พิพิธภัณฑ์
Barcode | ชื่อพิพิธภัณฑ์ | จังหวัด | ลักษณะ |
---|---|---|---|
Barcode | ชื่อพิพิธภัณฑ์ | จังหวัด | ลักษณะ |