Toggle navigation
หน้าแรก
ข้อมูลสิ่งมีชีวิต
สัตว์
พืช
จุลินทรีย์ และ สิ่งมีชีวิตที่เกี่ยวข้อง
เกี่ยวกับ TH-BIF
การพัฒนา TH-BIF
หน่วยงานเครือข่ายที่สนับสนุนข้อมูล
การจัดกลุ่มสิ่งมีชีวิต
แนวทางปฏิบัติในการสร้างธรรมมาภิบาลข้อมูลของระบบคลังข้อมูลฯ
ข้อมูลเชิงพื้นที่
แผนที่แสดงข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย
ข้อมูลเชิงพื้นที่ของพื้นที่นำร่อง
ข้อมูลสำรวจ
ข้อมูลเฉพาะเรื่อง
สถานภาพการคุกคาม
ทะเบียนชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน
พรรณพืชและพรรณสัตว์ในพระนาม
สถานะอนุสัญญา CITES
ผู้เชี่ยวชาญ
ทำเนียบผู้เชี่ยวชาญ
ลงทะเบียนผู้เชี่ยวชาญ
ข่าวประชาสัมพันธ์
ติดต่อเรา
เอกสารเผยแพร่
แบบประเมินผลความพึงพอใจ
LOGIN
ข้อมูลสิ่งมีชีวิต
หน้าแรก
ข้อมูลสิ่งมีชีวิต
Desmodium heterocarpon
Desmodium heterocarpon
ชื่อวิทยาศาสตร์แบบเต็ม:
Desmodium heterocarpon
(L.) DC.
Status:
SYNONYM
ชื่อสามัญ::
-
Khang khanna
-
Khon thi din
ชื่อไทย::
-
ขางคันนา
-
คนทิดิน
-
เชียดน้อย
ชื่อท้องถิ่น::
-
ขางคันนา ขางคันนาแดง(เชียงใหม่) พึงฮวย(ชุมพร) เส่งช้างโชก(กะเหรี่ยง ลำปาง) หญ้าตืดหมา (ลำปาง)
อาณาจักร::
Plantae
ไฟลัม::
Tracheophyta
ชั้น::
Magnoliopsida
อันดับ:
Fabales
วงศ์::
Fabaceae
สกุล:
Grona
ปีที่ตีพิมพ์:
2014
วันที่อัพเดท :
10 พ.ย. 2566 00:00 น.
วันที่สร้าง:
10 พ.ย. 2566 00:00 น.
ข้อมูลทั่วไป
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
-
ไม้พุ่มขนาดเล็ก
-
ไม้พุ่มขนาดเล็ก
-
สูง 50-175 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้น 1.8-5.2 เซนติเมตร ใบเป็นแบบขนนกมี 3 ใบย่อย (tridoliate) ใบบนสุดมีขนาดกว้าง 1.6-2.8 เซนติเมตร ยาว 3.0-3.5 เซนติเมตร ใบด้านข้างกว้าง1.1-2.0 เซนติเมตร ยาว 2.3-4.0 เซนติเมตร ก้านใบยาว1.4-2.2 เซนติเมตร ช่อดอกยาว 4.3-5.8 เซนติเมตร ฝักยาว 1.3-3.0 เซนติเมตร
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา :
-
ต้นมีลักษณะกึ่งตั้งกึ่งเลื้อยถึงแผ่คลุมดิน ลำต้นสีเขียวอ่อน ส่วนที่ถูกแสงมักมีสีน้ำตาลแดงเข้ม ด้านล่างที่ไม่ถูกแสงมีสีเขียวอ่อน มีขนสีขาวนวลปกคลุมหนาแน่น ใบมีสีเขียวถึงค่อนข้างเขียวเข้ม หลังใบมีขนสีขาวขึ้นปกคลุมหนาแน่น แต่ขนจะสั้นกว่า Desmodium styracifolium ด้านหน้าใบไม่มีขน พบบางสายพันธุ์มีขนเล็กๆกระจายอยู่ตามเส้นใบและแผ่นใบด้านหน้า การจัดเรียงตัวของใบเป็นแบบขนนกมี 3 ใบย่อย (tridoliate) ใบบนสุดเป็นรูปไข่กลับ (obovate) หรือรูปไข่กลับแกมใบหอก (obovate -lanceolate) ส่วนใบด้านข้างเป็นรูปไข่กลับ และรูปวงรี (oval) หูใบ (stipule) สีน้ำตาลถึงน้ำตางแดงเข้มออกดอกที่ปลายยอด การออกดอกเป็นแบบ indeterminate กลีบดอกสีม่วงหรือม่วงปนขาวนวล อับเรณู (anther) สีเหลืองปนน้ำตาล ก้านอับเรณู (filament) สีแดง เกสรเพศเมีย (stigma) สีเหลืองอ่อนปนเขียว ก้านเกสรเพศเมีย (style) สีเขียว ช่อดอกมีดอกย่อย 43-90 ดอก ฝักมีขน และคอดหักเป็นข้อๆแต่ละฝักมีเมล็ด 4-9 เมล็ด บางช่อดอกย่อยฝีกจะมีเมล็ดเพียง 1 เมล็ด ออกดอกติดเมล็ดดีมาก ที่อำเภอราษีไศลจังหวัดศรีสะเกษ จะออกดอกติดเมล็ดเร็วกว่า ที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานีเริ่มออกดอกเดือนพฤษภาคม แต่จะออกดอกมากในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน
ถิ่นกำเนิด :
-
ไทย
แหล่งที่พบภายในประเทศ :
-
นครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา, ยะลา, นราธิวาส, นครราชสีมา, กาญจนบุรี, อุบลราชธานี, เพชรบูรณ์, ศรีสะเกษ, ขอนแก่น
-
ราชบุรี
รายละเอียดอื่นๆ ของแหล่งที่พบ :
-
พบที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 76-892 เมตร บริเวณอำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช อำเภอป่าพยอม จังหวัดพัทลุง อำเภอหาดใหญ่ อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา อำเภอเบตง จังหวัดยะลา อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส อำเภอโคกกรวด จังหวัดนครราชสีมา อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่น้ำภาชี
ข้อมูลพันธุกรรมอ้างอิง
Number
Accession number
Bioproject
DNA fingerprint
1
PRJNA1021556
1021556
2
PRJNA557933
557933
Number
Accession number
Bioproject
DNA fingerprint
ที่มาของข้อมูล
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
พืชอาหารสัตว์พื้นเมือง เล่ม 1
องค์การสวนพฤกษศาสตร์
หน่วยงานผู้นำเข้าข้อมูล
สิ่งมีชีวิตที่เกี่ยวข้อง
กำลังช้างเผือก
Hiptage benghalensis
Callicarpa rubella
พนอง
Shorea hypochra
Salacia laotica
Aglaia exstipulata
Toona sureni
Previous
Next