Toggle navigation
หน้าแรก
ข้อมูลสิ่งมีชีวิต
สัตว์
พืช
จุลินทรีย์ และ สิ่งมีชีวิตที่เกี่ยวข้อง
เกี่ยวกับ TH-BIF
การพัฒนา TH-BIF
หน่วยงานเครือข่ายที่สนับสนุนข้อมูล
การจัดกลุ่มสิ่งมีชีวิต
แนวทางปฏิบัติในการสร้างธรรมมาภิบาลข้อมูลของระบบคลังข้อมูลฯ
ข้อมูลเชิงพื้นที่
แผนที่แสดงข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศไทย
ข้อมูลเชิงพื้นที่ของพื้นที่นำร่อง
ข้อมูลสำรวจ
ข้อมูลเฉพาะเรื่อง
สถานภาพการคุกคาม
ทะเบียนชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน
พรรณพืชและพรรณสัตว์ในพระนาม
สถานะอนุสัญญา CITES
ผู้เชี่ยวชาญ
ทำเนียบผู้เชี่ยวชาญ
ลงทะเบียนผู้เชี่ยวชาญ
ข่าวประชาสัมพันธ์
ติดต่อเรา
เอกสารเผยแพร่
แบบประเมินผลความพึงพอใจ
LOGIN
ข้อมูลสิ่งมีชีวิต
หน้าแรก
ข้อมูลสิ่งมีชีวิต
Diospyros gracilis
Diospyros gracilis
ชื่อวิทยาศาสตร์แบบเต็ม:
Diospyros gracilis
Fletcher
Status:
ACCEPTED
ชื่อไทย::
-
มะเกลือกา
-
กาจะ
ชื่อท้องถิ่น::
-
มะเกลือกา, มะเกียกา
อาณาจักร::
Plantae
ไฟลัม::
Tracheophyta
ชั้น::
Magnoliopsida
อันดับ:
Ericales
วงศ์::
Ebenaceae
สกุล:
Diospyros
วันที่อัพเดท :
1 ก.พ. 2564 09:36 น.
วันที่สร้าง:
1 ก.พ. 2564 09:36 น.
ข้อมูลทั่วไป
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา :
-
ไม้ต้น
-
เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดเล็กที่มีใบสวยงามมาก เปลือกลำต้นมีสีเทาค่อนข้างเรียบ แตกกิ่งก้านสาขาเป็นทรงพุ่มทึบรูปกรวย มีความสูงของลำต้นประมาณ 5 เมตร ปลายกิ่งมักลู่ลงมา ออกเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับกันตามกิ่งก้านที่ปลายยอด ลักษณะใบเป็นรูปใบหอกแกมขอบขนาน แผ่นใบเรียบมีสีเขียวเป็นมัน ขอบใบเรียบ โคนใบสอบแคบ ปลายใบเรียวทู่ มีขนาดความกว้างของใบประมาณ 1-3 ซม. ยาวประมาณ 3-10 ซม. ก้านใบสั้น ดอกเป็นดอกสีแดงขนาดเล็ก ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียแยกกันอยู่คนละต้น โดยดอกเพศผู้จะออกเป็นช่อขนาดเล็กตามซอกใบ มีกลีบดอกและกลีบเลี้ยงอย่างละ 4 กลีบ มีเกสรเพศผู้อยู่กลางดอกประมาณ 14-18 อัน ส่วนดอกเพศเมียจะออกเป็นดอกเดี่ยวๆ ตามซอกใบ ลักษณะคล้ายดอกเพศผู้ แต่มีขนาดใหญ่กว่า ให้ดอกในช่วงประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ผลเป็นรูปทรงกลม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางผลประมาณ 2-2.5 ซม. ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกเป็นสีเหลือง และกลายเป็นผลแห้งเมื่อแก่
-
เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดเล็กที่มีใบสวยงามมาก เปลือกลำต้นมีสีเทาค่อนข้างเรียบ แตกกิ่งก้านสาขาเป็นทรงพุ่มทึบรูปกรวย มีความสูงของลำต้นประมาณ 5 เมตร ปลายกิ่งมักลู่ลงมา ออกเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับกันตามกิ่งก้านที่ปลายยอด ลักษณะใบเป็นรูปใบหอกแกมขอบขนาน แผ่นใบเรียบมีสีเขียวเป็นมัน ขอบใบเรียบ โคนใบสอบแคบ ปลายใบเรียวทู่ มีขนาดความกว้างของใบประมาณ 1-3 ซม. ยาวประมาณ 3-10 ซม. ก้านใบสั้น ดอกเป็นดอกสีแดงขนาดเล็ก ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียแยกกันอยู่คนละต้น โดยดอกเพศผู้จะออกเป็นช่อขนาดเล็กตามซอกใบ มีกลีบดอกและกลีบเลี้ยงอย่างละ 4 กลีบ มีเกสรเพศผู้อยู่กลางดอกประมาณ 14-18 อัน ส่วนดอกเพศเมียจะออกเป็นดอกเดี่ยวๆ ตามซอกใบ ลักษณะคล้ายดอกเพศผู้ แต่มีขนาดใหญ่กว่า ให้ดอกในช่วงประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ผลเป็นรูปทรงกลม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางผลประมาณ 2-2.5 ซม. ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกเป็นสีเหลือง และกลายเป็นผลแห้งเมื่อแก่
-
เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดเล็กที่มีใบสวยงามมาก เปลือกลำต้นมีสีเทาค่อนข้างเรียบ แตกกิ่งก้านสาขาเป็นทรงพุ่มทึบรูปกรวย มีความสูงของลำต้นประมาณ 5 เมตร ปลายกิ่งมักลู่ลงมา ออกเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับกันตามกิ่งก้านที่ปลายยอด ลักษณะใบเป็นรูปใบหอกแกมขอบขนาน แผ่นใบเรียบมีสีเขียวเป็นมัน ขอบใบเรียบ โคนใบสอบแคบ ปลายใบเรียวทู่ มีขนาดความกว้างของใบประมาณ 1-3 ซม. ยาวประมาณ 3-10 ซม. ก้านใบสั้น ดอกเป็นดอกสีแดงขนาดเล็ก ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียแยกกันอยู่คนละต้น โดยดอกเพศผู้จะออกเป็นช่อขนาดเล็กตามซอกใบ มีกลีบดอกและกลีบเลี้ยงอย่างละ 4 กลีบ มีเกสรเพศผู้อยู่กลางดอกประมาณ 14-18 อัน ส่วนดอกเพศเมียจะออกเป็นดอกเดี่ยวๆ ตามซอกใบ ลักษณะคล้ายดอกเพศผู้ แต่มีขนาดใหญ่กว่า ให้ดอกในช่วงประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ผลเป็นรูปทรงกลม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางผลประมาณ 2-2.5 ซม. ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกเป็นสีเหลือง และกลายเป็นผลแห้งเมื่อแก่
-
เป็นไม้ยืนต้นไม่ผลัดใบขนาดเล็กที่มีใบสวยงามมาก เปลือกลำต้นมีสีเทาค่อนข้างเรียบ แตกกิ่งก้านสาขาเป็นทรงพุ่มทึบรูปกรวย มีความสูงของลำต้นประมาณ 5 เมตร ปลายกิ่งมักลู่ลงมา ออกเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับกันตามกิ่งก้านที่ปลายยอด ลักษณะใบเป็นรูปใบหอกแกมขอบขนาน แผ่นใบเรียบมีสีเขียวเป็นมัน ขอบใบเรียบ โคนใบสอบแคบ ปลายใบเรียวทู่ มีขนาดความกว้างของใบประมาณ 1-3 ซม. ยาวประมาณ 3-10 ซม. ก้านใบสั้น ดอกเป็นดอกสีแดงขนาดเล็ก ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียแยกกันอยู่คนละต้น โดยดอกเพศผู้จะออกเป็นช่อขนาดเล็กตามซอกใบ มีกลีบดอกและกลีบเลี้ยงอย่างละ 4 กลีบ มีเกสรเพศผู้อยู่กลางดอกประมาณ 14-18 อัน ส่วนดอกเพศเมียจะออกเป็นดอกเดี่ยวๆ ตามซอกใบ ลักษณะคล้ายดอกเพศผู้ แต่มีขนาดใหญ่กว่า ให้ดอกในช่วงประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ผลเป็นรูปทรงกลม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางผลประมาณ 2-2.5 ซม. ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อสุกเป็นสีเหลือง และกลายเป็นผลแห้งเมื่อแก่
การกระจายพันธุ์ :
-
C & E Thailand: Saraburi, Lop Buri, Nakhon Rtchasima, Sa Kaeo
แหล่งที่พบภายในประเทศ :
-
Endemic
-
สุราษฎร์ธานี, ระนอง
-
สุราษฎร์ธานี
-
สุราษฎร์ธานี
-
ชุมพร, ระนอง
-
ลพบุรี
-
ลพบุรี
-
พะเยา, น่าน
-
พะเยา, น่าน
-
เลย, เพชรบูรณ์
-
พะเยา
-
พะเยา
รายละเอียดอื่นๆ ของแหล่งที่พบ :
-
Mixed deciduous and dry evergreen forests, to 300 m.
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า คลองนาคา
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า คลองยัน
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า คลองแสง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ควนแม่ยายหม่อน
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซับลังกา
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซับลังกา
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดอยผาช้าง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดอยผาช้าง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูหลวง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เวียงลอ
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เวียงลอ
การขยายพันธุ์ :
-
การใช้เมล็ด
-
การใช้เมล็ด
-
การใช้เมล็ด
-
การใช้เมล็ด
ที่มาของข้อมูล
ONEP Biodiversity Series Vol. 17 : Thailand Red Data : Plants (2006)
กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
หน่วยงานผู้นำเข้าข้อมูล
สิ่งมีชีวิตที่เกี่ยวข้อง
Hornstedtia conica
Bouea macrophylla
Vernonia cinerea
ส้านหิ่ง
Dillenia parviflora
Chiloschista extinctoriformis
Garcinia scortechinii
Previous
Next