ข้อมูลสิ่งมีชีวิต


วันที่อัพเดท : 12 มิ.ย. 2566 12:11 น.
วันที่สร้าง: 12 มิ.ย. 2566 12:11 น.
ข้อมูลทั่วไป
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
- ไม้พุ่มเล็กถึงไม้พุ่มสูง 0.5-1.5 เมตร กิ่งแตกบริเวณโคนต้น กิ่งก้านมีขน ใบเดี่ยว ออกสลับ รูปหอก ยาว 1.5-5 เซนติเมตร กว้าง 3-5 มิลลิเมตร ปลายใบแหลมหรือเป็นติ่งเล็กน้อย ฐานใบสอบ ขอบใบหยักคล้ายซี่ฟัน ผิวใบมีขนประปรายทั้งสองด้าน ก้านใบสั้นหรือไม่มี ดอกช่อแบบแยกแขนง ออกที่ปลายยอด ดอกย่อยแบบเฮด ก้านช่อดอกยาว 5-10 เซนติเมตร ก้านดอกย่อยสั้นหรือยาว 0.2-1.5 เซนติเมตร วงใบประดับมี 5-6 วง รูปสามเหลี่ยมหรือรูปใบหอกหรือรูปกลมหรือรูปหอกกลับ ยาว 2-4 มิลลิเมตร กว้าง 1-3 มิลลิเมตร สีเขียว ผิวด้านนอกมีขน แพปพัส มี 1 วง สีขาว เป็นเส้นมีขนาดไม่เท่ากันแต่ละเส้นมีขนสั้นหรือหนามสั้นอยู่ทั่วเส้น ร่วงง่าย ดอกย่อยมี 2 วงคือ ดอกวงนอก เป็นดอกเพศเมีย มีจำนวนมาก กลีบดอก สีม่วงถึงสีขาว เชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 2-3 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็นแฉกตื้น เกสรเพศเมีย รังไข่รูปรี ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีเขียวอ่อน ผิวด้านนอกมีขน ก้านชูเกสรเป็นแท่ง ยาว 2-2.5 มิลลิเมตร ยอดเกสรเป็นแท่งแยกเป็น 2 แฉกแต่ละแฉกยาว 0.1-0.2 มิลลิเมตร ผิวมีขนประปราย ดอกวงใน เป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกสีม่วง เชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 2-3 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็น 5 แฉก แต่ละแฉกรูปสามเหลี่ยม ยาว 0.3-0.5 มิลลิเมตร เกสรเพศผู้ มี 5 อันติดกัน ก้านชูเกสรเป็นแท่งยาว 1-1.2 มิลลิเมตร ติดบริเวณฐานของหลอดกลีบดอก สีม่วง อับเรณูรูปกระสวยยาว 1-1.5 มิลลิเมตร สีม่วง เกสรเพศเมีย รังไข่รูปรี ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีเขียวอ่อน ผิวด้านนอกมีขน ก้านชูเกสรเป็นแท่งยาว 3.5-4 มิลลิเมตร สีม่วงอ่อน ยอดเกสรเป็นปลายแหลม ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีม่วง ผิวมีขน ผลรูปไข่กลับ ยาว 1-1.5 มิลลิเมตร กว้าง 0.5-1 มิลลิเมตร ผิวเป็นสันขนมี 5-6 แถว
- ไม้พุ่มชูต้น สูง 1-1.5 ม. ขึ้นรวมกันเป็นกลุ่ม แตกกิ่งก้านมาก เปลือกเรียบ สีเทาถึงน้ำตาล มีขนละเอียดปกคลุมตามกิ่ง
ใบ เดี่ยว เรียงเวียนสลับ แผ่นใบรูปไข่กลับ ขนาด 1-3x2-6 ซม. โคนใบสอบเรียวถึงรูปลิ่ม ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อยถึงหยักแกมซี่ฟัน ปลายใบมนถึงแหลม เส้นใบแบบร่างแหขนนก เส้นกลางใบเป็นสันนูนมีร่องตรงกลาง เส้นแขนงใบ 4-5 คู่ ยกตัว เนื้อใบบาง ผิวใบสีเขียวหม่น มีขนสั้นนุ่ม ปกคลุมทั้งสองด้าน ก้านใบสั้น ใบมีกลิ่นเหม็นสาบเมื่อขยี้ ดอก แบบช่อเชิงลดกระจุกแน่นแยกแขนง สีม่วงอ่อน ออกตามง่ามใบและปลายยอดกระจุก ดอกย่อย เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.5 ซม. ก้านช่อดอกยาว 0.3-0.5 ซม. ไม่มีก้านดอกย่อย ใบประดับแข็งสีเขียว เรียงกัน 6-7 วง ใบประดับวงนอกรูปไข่ วงในรูปใบหอกแคบ เรียงซ้อนกันคล้ายรูประฆัง ทรงสูง ฐานดอกเกลี้ยง ดอกวงนอกเป็นดอกเพศเมีย กลีบเลี้ยงเป็นพู่ขน กลีบดอกรูปเส้นด้าย ยาว 0.3-0.4 ซม. ดอกวงในเป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยาว 0.4-0.6 ซม. ปลายแยกเป็น 5 แฉก อดอกระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-กันยายน
ผล แบบผลแห้งเมล็ดล่อน รูปทรงกระบอก ผิวเกลี้ยง ยาวประมาณ 0.1 ซม. มีขนเป็นพู่สีขาวที่ปลายผลยาว 0.3-0.4 ซม. อกผลระหว่างเดืนกุมภาพันธ์-กันยายน
- ไม้พุ่มเล็กถึงไม้พุ่มสูง 0.5-1.5 เมตร กิ่งแตกบริเวณโคนต้น กิ่งก้านมีขน ใบเดี่ยว ออกสลับ รูปหอก ยาว 1.5-5 เซนติเมตร กว้าง 3-5 มิลลิเมตร ปลายใบแหลมหรือเป็นติ่งเล็กน้อย ฐานใบสอบ ขอบใบหยักคล้ายซี่ฟัน ผิวใบมีขนประปรายทั้งสองด้าน ก้านใบสั้นหรือไม่มี ดอกช่อแบบแยกแขนง ออกที่ปลายยอด ดอกย่อยแบบเฮด ก้านช่อดอกยาว 5-10 เซนติเมตร ก้านดอกย่อยสั้นหรือยาว 0.2-1.5 เซนติเมตร วงใบประดับมี 5-6 วง รูปสามเหลี่ยมหรือรูปใบหอกหรือรูปกลมหรือรูปหอกกลับ ยาว 2-4 มิลลิเมตร กว้าง 1-3 มิลลิเมตร สีเขียว ผิวด้านนอกมีขน แพปพัส มี 1 วง สีขาว เป็นเส้นมีขนาดไม่เท่ากันแต่ละเส้นมีขนสั้นหรือหนามสั้นอยู่ทั่วเส้น ร่วงง่าย ดอกย่อยมี 2 วงคือ ดอกวงนอก เป็นดอกเพศเมีย มีจำนวนมาก กลีบดอก สีม่วงถึงสีขาว เชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 2-3 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็นแฉกตื้น เกสรเพศเมีย รังไข่รูปรี ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีเขียวอ่อน ผิวด้านนอกมีขน ก้านชูเกสรเป็นแท่ง ยาว 2-2.5 มิลลิเมตร ยอดเกสรเป็นแท่งแยกเป็น 2 แฉกแต่ละแฉกยาว 0.1-0.2 มิลลิเมตร ผิวมีขนประปราย ดอกวงใน เป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกสีม่วง เชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 2-3 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็น 5 แฉก แต่ละแฉกรูปสามเหลี่ยม ยาว 0.3-0.5 มิลลิเมตร เกสรเพศผู้ มี 5 อันติดกัน ก้านชูเกสรเป็นแท่งยาว 1-1.2 มิลลิเมตร ติดบริเวณฐานของหลอดกลีบดอก สีม่วง อับเรณูรูปกระสวยยาว 1-1.5 มิลลิเมตร สีม่วง เกสรเพศเมีย รังไข่รูปรี ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีเขียวอ่อน ผิวด้านนอกมีขน ก้านชูเกสรเป็นแท่งยาว 3.5-4 มิลลิเมตร สีม่วงอ่อน ยอดเกสรเป็นปลายแหลม ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีม่วง ผิวมีขน ผลรูปไข่กลับ ยาว 1-1.5 มิลลิเมตร กว้าง 0.5-1 มิลลิเมตร ผิวเป็นสันขนมี 5-6 แถว
การกระจายพันธุ์ :
- กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา
- บริเวณอ่าวเบงกอล ประเทศพม่า ไทย กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และหมู่เกาะใกล้เคียง
- กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา
รายละเอียดอื่นๆ ของแหล่งที่พบ :
- พื้นที่ชุมน้ำปากแม่น้ำกระบี่
- บริเวณโดยรอบโรงไฟฟ้าพระนครใต้ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา :
- ไม้พุ่ม (Shrub)
- ไม้พุ่มเล็กถึงไม้พุ่มสูง 0.5-1.5 เมตร กิ่งแตกบริเวณโคนต้น กิ่งก้านมีขน
ใบ ใบเดี่ยว ออกสลับ รูปหอก ยาว 1.5-5 เซนติเมตร กว้าง 3-5 มิลลิเมตร ปลายใบแหลมหรือเป็นติ่งเล็กน้อย ฐานใบสอบ ขอบใบหยักคล้ายซี่ฟัน ผิวใบมีขนประปรายทั้งสองด้าน ก้านใบสั้นหรือไม่มี
ดอก ดอกช่อแบบแยกแขนง ออกที่ปลายยอด ดอกย่อยแบบเฮด ก้านช่อดอกยาว 5-10 เซนติเมตร ก้านดอกย่อยสั้นหรือยาว 0.2-1.5 เซนติเมตร วงใบประดับมี 5-6 วง รูปสามเหลี่ยมหรือรูปใบหอกหรือรูปกลมหรือรูปหอกกลับ ยาว 2-4 มิลลิเมตร กว้าง 1-3 มิลลิเมตร สีเขียว ผิวด้านนอกมีขน แพปพัส มี 1 วง สีขาว เป็นเส้นมีขนาดไม่เท่ากันแต่ละเส้นมีขนสั้นหรือหนามสั้นอยู่ทั่วเส้น ร่วงง่าย ดอกย่อยมี 2 วงคือ ดอกวงนอก เป็นดอกเพศเมีย มีจำนวนมาก กลีบดอก สีม่วงถึงสีขาว เชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 2-3 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็นแฉกตื้น เกสรเพศเมีย รังไข่รูปรี ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีเขียวอ่อน ผิวด้านนอกมีขน ก้านชูเกสรเป็นแท่ง ยาว 2-2.5 มิลลิเมตร ยอดเกสรเป็นแท่งแยกเป็น 2 แฉกแต่ละแฉกยาว 0.1-0.2 มิลลิเมตร ผิวมีขนประปราย ดอกวงใน เป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกสีม่วง เชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 2-3 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็น 5 แฉก แต่ละแฉกรูปสามเหลี่ยม ยาว 0.3-0.5 มิลลิเมตร เกสรเพศผู้ มี 5 อันติดกัน ก้านชูเกสรเป็นแท่งยาว 1-1.2 มิลลิเมตร ติดบริเวณฐานของหลอดกลีบดอก สีม่วง อับเรณูรูปกระสวยยาว 1-1.5 มิลลิเมตร สีม่วง เกสรเพศเมีย รังไข่รูปรี ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีเขียวอ่อน ผิวด้านนอกมีขน ก้านชูเกสรเป็นแท่งยาว 3.5-4 มิลลิเมตร สีม่วงอ่อน ยอดเกสรเป็นปลายแหลม ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีม่วง ผิวมีขน
ผล ผลรูปไข่กลับ ยาว 1-1.5 มิลลิเมตร กว้าง 0.5-1 มิลลิเมตร ผิวเป็นสันขนมี 5-6 แถว
- ไม้พุ่มเล็กถึงไม้พุ่มสูง 0.5-1.5 เมตร กิ่งแตกบริเวณโคนต้น กิ่งก้านมีขน
ใบ ใบเดี่ยว ออกสลับ รูปหอก ยาว 1.5-5 เซนติเมตร กว้าง 3-5 มิลลิเมตร ปลายใบแหลมหรือเป็นติ่งเล็กน้อย ฐานใบสอบ ขอบใบหยักคล้ายซี่ฟัน ผิวใบมีขนประปรายทั้งสองด้าน ก้านใบสั้นหรือไม่มี
ดอก ดอกช่อแบบแยกแขนง ออกที่ปลายยอด ดอกย่อยแบบเฮด ก้านช่อดอกยาว 5-10 เซนติเมตร ก้านดอกย่อยสั้นหรือยาว 0.2-1.5 เซนติเมตร วงใบประดับมี 5-6 วง รูปสามเหลี่ยมหรือรูปใบหอกหรือรูปกลมหรือรูปหอกกลับ ยาว 2-4 มิลลิเมตร กว้าง 1-3 มิลลิเมตร สีเขียว ผิวด้านนอกมีขน แพปพัส มี 1 วง สีขาว เป็นเส้นมีขนาดไม่เท่ากันแต่ละเส้นมีขนสั้นหรือหนามสั้นอยู่ทั่วเส้น ร่วงง่าย ดอกย่อยมี 2 วงคือ ดอกวงนอก เป็นดอกเพศเมีย มีจำนวนมาก กลีบดอก สีม่วงถึงสีขาว เชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 2-3 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็นแฉกตื้น เกสรเพศเมีย รังไข่รูปรี ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีเขียวอ่อน ผิวด้านนอกมีขน ก้านชูเกสรเป็นแท่ง ยาว 2-2.5 มิลลิเมตร ยอดเกสรเป็นแท่งแยกเป็น 2 แฉกแต่ละแฉกยาว 0.1-0.2 มิลลิเมตร ผิวมีขนประปราย ดอกวงใน เป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกสีม่วง เชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 2-3 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็น 5 แฉก แต่ละแฉกรูปสามเหลี่ยม ยาว 0.3-0.5 มิลลิเมตร เกสรเพศผู้ มี 5 อันติดกัน ก้านชูเกสรเป็นแท่งยาว 1-1.2 มิลลิเมตร ติดบริเวณฐานของหลอดกลีบดอก สีม่วง อับเรณูรูปกระสวยยาว 1-1.5 มิลลิเมตร สีม่วง เกสรเพศเมีย รังไข่รูปรี ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีเขียวอ่อน ผิวด้านนอกมีขน ก้านชูเกสรเป็นแท่งยาว 3.5-4 มิลลิเมตร สีม่วงอ่อน ยอดเกสรเป็นปลายแหลม ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีม่วง ผิวมีขน
ผล ผลรูปไข่กลับ ยาว 1-1.5 มิลลิเมตร กว้าง 0.5-1 มิลลิเมตร ผิวเป็นสันขนมี 5-6 แถว
- ไม้พุ่มเล็กถึงไม้พุ่มสูง 0.5-1.5 เมตร กิ่งแตกบริเวณโคนต้น กิ่งก้านมีขน
ใบ ใบเดี่ยว ออกสลับ รูปหอก ยาว 1.5-5 เซนติเมตร กว้าง 3-5 มิลลิเมตร ปลายใบแหลมหรือเป็นติ่งเล็กน้อย ฐานใบสอบ ขอบใบหยักคล้ายซี่ฟัน ผิวใบมีขนประปรายทั้งสองด้าน ก้านใบสั้นหรือไม่มี
ดอก ดอกช่อแบบแยกแขนง ออกที่ปลายยอด ดอกย่อยแบบเฮด ก้านช่อดอกยาว 5-10 เซนติเมตร ก้านดอกย่อยสั้นหรือยาว 0.2-1.5 เซนติเมตร วงใบประดับมี 5-6 วง รูปสามเหลี่ยมหรือรูปใบหอกหรือรูปกลมหรือรูปหอกกลับ ยาว 2-4 มิลลิเมตร กว้าง 1-3 มิลลิเมตร สีเขียว ผิวด้านนอกมีขน แพปพัส มี 1 วง สีขาว เป็นเส้นมีขนาดไม่เท่ากันแต่ละเส้นมีขนสั้นหรือหนามสั้นอยู่ทั่วเส้น ร่วงง่าย ดอกย่อยมี 2 วงคือ ดอกวงนอก เป็นดอกเพศเมีย มีจำนวนมาก กลีบดอก สีม่วงถึงสีขาว เชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 2-3 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็นแฉกตื้น เกสรเพศเมีย รังไข่รูปรี ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีเขียวอ่อน ผิวด้านนอกมีขน ก้านชูเกสรเป็นแท่ง ยาว 2-2.5 มิลลิเมตร ยอดเกสรเป็นแท่งแยกเป็น 2 แฉกแต่ละแฉกยาว 0.1-0.2 มิลลิเมตร ผิวมีขนประปราย ดอกวงใน เป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกสีม่วง เชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 2-3 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็น 5 แฉก แต่ละแฉกรูปสามเหลี่ยม ยาว 0.3-0.5 มิลลิเมตร เกสรเพศผู้ มี 5 อันติดกัน ก้านชูเกสรเป็นแท่งยาว 1-1.2 มิลลิเมตร ติดบริเวณฐานของหลอดกลีบดอก สีม่วง อับเรณูรูปกระสวยยาว 1-1.5 มิลลิเมตร สีม่วง เกสรเพศเมีย รังไข่รูปรี ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีเขียวอ่อน ผิวด้านนอกมีขน ก้านชูเกสรเป็นแท่งยาว 3.5-4 มิลลิเมตร สีม่วงอ่อน ยอดเกสรเป็นปลายแหลม ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีม่วง ผิวมีขน
ผล ผลรูปไข่กลับ ยาว 1-1.5 มิลลิเมตร กว้าง 0.5-1 มิลลิเมตร ผิวเป็นสันขนมี 5-6 แถว
- ไม้พุ่มเล็กถึงไม้พุ่มสูง 0.5-1.5 เมตร กิ่งแตกบริเวณโคนต้น กิ่งก้านมีขน
ใบ ใบเดี่ยว ออกสลับ รูปหอก ยาว 1.5-5 เซนติเมตร กว้าง 3-5 มิลลิเมตร ปลายใบแหลมหรือเป็นติ่งเล็กน้อย ฐานใบสอบ ขอบใบหยักคล้ายซี่ฟัน ผิวใบมีขนประปรายทั้งสองด้าน ก้านใบสั้นหรือไม่มี
ดอก ดอกช่อแบบแยกแขนง ออกที่ปลายยอด ดอกย่อยแบบเฮด ก้านช่อดอกยาว 5-10 เซนติเมตร ก้านดอกย่อยสั้นหรือยาว 0.2-1.5 เซนติเมตร วงใบประดับมี 5-6 วง รูปสามเหลี่ยมหรือรูปใบหอกหรือรูปกลมหรือรูปหอกกลับ ยาว 2-4 มิลลิเมตร กว้าง 1-3 มิลลิเมตร สีเขียว ผิวด้านนอกมีขน แพปพัส มี 1 วง สีขาว เป็นเส้นมีขนาดไม่เท่ากันแต่ละเส้นมีขนสั้นหรือหนามสั้นอยู่ทั่วเส้น ร่วงง่าย ดอกย่อยมี 2 วงคือ ดอกวงนอก เป็นดอกเพศเมีย มีจำนวนมาก กลีบดอก สีม่วงถึงสีขาว เชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 2-3 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็นแฉกตื้น เกสรเพศเมีย รังไข่รูปรี ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีเขียวอ่อน ผิวด้านนอกมีขน ก้านชูเกสรเป็นแท่ง ยาว 2-2.5 มิลลิเมตร ยอดเกสรเป็นแท่งแยกเป็น 2 แฉกแต่ละแฉกยาว 0.1-0.2 มิลลิเมตร ผิวมีขนประปราย ดอกวงใน เป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกสีม่วง เชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 2-3 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็น 5 แฉก แต่ละแฉกรูปสามเหลี่ยม ยาว 0.3-0.5 มิลลิเมตร เกสรเพศผู้ มี 5 อันติดกัน ก้านชูเกสรเป็นแท่งยาว 1-1.2 มิลลิเมตร ติดบริเวณฐานของหลอดกลีบดอก สีม่วง อับเรณูรูปกระสวยยาว 1-1.5 มิลลิเมตร สีม่วง เกสรเพศเมีย รังไข่รูปรี ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีเขียวอ่อน ผิวด้านนอกมีขน ก้านชูเกสรเป็นแท่งยาว 3.5-4 มิลลิเมตร สีม่วงอ่อน ยอดเกสรเป็นปลายแหลม ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีม่วง ผิวมีขน
ผล ผลรูปไข่กลับ ยาว 1-1.5 มิลลิเมตร กว้าง 0.5-1 มิลลิเมตร ผิวเป็นสันขนมี 5-6 แถว
- ไม้พุ่มเล็กถึงไม้พุ่มสูง 0.5-1.5 เมตร กิ่งแตกบริเวณโคนต้น กิ่งก้านมีขน
ใบ ใบเดี่ยว ออกสลับ รูปหอก ยาว 1.5-5 เซนติเมตร กว้าง 3-5 มิลลิเมตร ปลายใบแหลมหรือเป็นติ่งเล็กน้อย ฐานใบสอบ ขอบใบหยักคล้ายซี่ฟัน ผิวใบมีขนประปรายทั้งสองด้าน ก้านใบสั้นหรือไม่มี
ดอก ดอกช่อแบบแยกแขนง ออกที่ปลายยอด ดอกย่อยแบบเฮด ก้านช่อดอกยาว 5-10 เซนติเมตร ก้านดอกย่อยสั้นหรือยาว 0.2-1.5 เซนติเมตร วงใบประดับมี 5-6 วง รูปสามเหลี่ยมหรือรูปใบหอกหรือรูปกลมหรือรูปหอกกลับ ยาว 2-4 มิลลิเมตร กว้าง 1-3 มิลลิเมตร สีเขียว ผิวด้านนอกมีขน แพปพัส มี 1 วง สีขาว เป็นเส้นมีขนาดไม่เท่ากันแต่ละเส้นมีขนสั้นหรือหนามสั้นอยู่ทั่วเส้น ร่วงง่าย ดอกย่อยมี 2 วงคือ ดอกวงนอก เป็นดอกเพศเมีย มีจำนวนมาก กลีบดอก สีม่วงถึงสีขาว เชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 2-3 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็นแฉกตื้น เกสรเพศเมีย รังไข่รูปรี ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีเขียวอ่อน ผิวด้านนอกมีขน ก้านชูเกสรเป็นแท่ง ยาว 2-2.5 มิลลิเมตร ยอดเกสรเป็นแท่งแยกเป็น 2 แฉกแต่ละแฉกยาว 0.1-0.2 มิลลิเมตร ผิวมีขนประปราย ดอกวงใน เป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลีบดอกสีม่วง เชื่อมกันเป็นหลอด ยาว 2-3 มิลลิเมตร ปลายแยกเป็น 5 แฉก แต่ละแฉกรูปสามเหลี่ยม ยาว 0.3-0.5 มิลลิเมตร เกสรเพศผู้ มี 5 อันติดกัน ก้านชูเกสรเป็นแท่งยาว 1-1.2 มิลลิเมตร ติดบริเวณฐานของหลอดกลีบดอก สีม่วง อับเรณูรูปกระสวยยาว 1-1.5 มิลลิเมตร สีม่วง เกสรเพศเมีย รังไข่รูปรี ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีเขียวอ่อน ผิวด้านนอกมีขน ก้านชูเกสรเป็นแท่งยาว 3.5-4 มิลลิเมตร สีม่วงอ่อน ยอดเกสรเป็นปลายแหลม ยาว 0.8-1 มิลลิเมตร สีม่วง ผิวมีขน
ผล ผลรูปไข่กลับ ยาว 1-1.5 มิลลิเมตร กว้าง 0.5-1 มิลลิเมตร ผิวเป็นสันขนมี 5-6 แถว
การขยายพันธุ์ :
- ปักชำและเพาะเมล็ด
- ปักชำและเพาะเมล็ด
- ปักชำและเพาะเมล็ด
- ปักชำและเพาะเมล็ด
- ปักชำและเพาะเมล็ด
แหล่งที่พบภายในประเทศ :
- สมุทรปราการ
ข้อมูลภูมิปัญญา
- สมุนไพรน่ารู้...จากป่าชายเลน :: ป่าชายเลน เป็นระบบนิเวศที่มีความสำคัญและประโยชน์อย่างยิ่งในหลายด้าน ในพื้นที่ป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์จะเป็นแหล่งรวมของพันธุ์พืชและสัตว์ชนิดต่าง ๆ ทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำนานาชนิด และมีความสำคัญต่อการดำรงชีพของมนุษย์ที่อาศัยอยู่โดยรอบ ทั้งในเขตป่าชายเลนและตามแนวชายฝั่งทะเลหลายรูปแบบ ซึ่งมีคุณค่าในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นสัตว์น้ำ เช่น กุ้ง หอย ปู และปลา ที่มีหลากหลายชนิด สามารถนำมารับประทานและขายเป็นรายได้ตลอดทั้งปี รวมทั้ง ไม้ป่าชายเลนที่นำมาใช้ประโยชน์ในลักษณะต่าง ๆ ได้หลายรูปแบบ เช่น ทำฟืน ถ่าน ไม้ก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์ เสาเข็ม ไม้ค้ำยัน แ