ข้อมูลสิ่งมีชีวิต


วันที่อัพเดท : 12 มิ.ย. 2566 12:11 น.
วันที่สร้าง: 12 มิ.ย. 2566 12:11 น.
ข้อมูลทั่วไป
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
- ไม้ต้น สูง 10-25 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกัน รูปขอบขนาน ขอบใบมักจะเป็นซี่ฟันตื้นๆ บางจักห่างหรือแทบมองไม่เห็นชัด เนื้อใบค่อนข้างหนาคล้ายแผ่นหนัง เส้นใบมี 6-10 คู่ ก้านใบยาว 0.5-2 ซม. ดอกสีขาวครีม ออกเป็นกระจุกตามง่ามใบ มี 2-3 ดอก ก้านช่อดอกยาว 0.5-1.5 ซม. ก้านดอกย่อยยาว 5-11 มม. บางที่มีจุดสีน้ำตาลแดง กลีบรองดอก 5 กลีบ โคนเชื่อมติดกันปลายแยกรูปไตหรือกึ่งกลม กลีบดอกรูปไข่ 5 กลีบซ้อนทับกัน กว้าง 1.7-2.5 มม. ยาว 2.2-3.5 มม. ปลายมน เกสรผู้ 5 อัน ก้านเกสรผู้แบน ยาวประมาณ 1 มม. เชื่อมติดกันที่ครึ่งหนึ่ง หรือใกล้ๆ โคนดอก ผลรูปรีกว้างหรือรูปกลม สีเขียวหรือเขียวอมเหลือง กว้าง 2-6 ซม. ยาว 3-6.5 ซม.
- บรรยายลักษณะต้น:ไม้ต้นขนาดกลางสูง 10-25 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดกลมทึบ ใบ:ใบเดี่ยว เรียงสลับ ใบรูปขอบขนาน กว้าง 5.5-8 เซนติเมตร ยาว 8-20 เซนติเมตร ปลายใบแหลม ฐานใบมน ขอบใบเป็นจักซี่ฟันตื้นๆ แผ่นใบค่อนข้างหนาคล้ายแผ่นหนัง เส้นแขนงใบข้างละ 6-10 เส้นดอก:ดอกสีขาว ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกตามซอกใบมี 2-3 ดอก กลีบเลี้ยงโคนเชื่ีอมติดกันปลายแยก 5 แฉก รูปไตหรือกึ่งกลม กลีบดอก 5 กลีบรูปไข่ ปลายมน ออกดอกเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายนผล:ผลแบบเมล็ดเดียวแข็ง รูปทรงรีกว้างหรือรูปไข่กลับ ผลสุกสีเหลือง เมล็ดรูปไข่ เป็นผลเดือนกรกฎาคมถึงกุมภาพันธ์เปลือก:เปลือกนอกสีเทาอมดำ แตกเป็นร่องตามยาวอื่นๆ:

ไม้ต้นขนาดกลางสูง 10-25 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดกลมทึบ
ใบเดี่ยว เรียงสลับ ใบรูปขอบขนาน กว้าง 5.5-8 เซนติเมตร ยาว 8-20 เซนติเมตร ปลายใบแหลม ฐานใบมน ขอบใบเป็นจักซี่ฟันตื้นๆ แผ่นใบค่อนข้างหนาคล้ายแผ่นหนัง เส้นแขนงใบข้างละ 6-10 เส้น
ดอกสีขาว ออกเป็นช่อแบบช่อกระจุกตามซอกใบมี 2-3 ดอก กลีบเลี้ยงโคนเชื่ีอมติดกันปลายแยก 5 แฉก รูปไตหรือกึ่งกลม กลีบดอก 5 กลีบรูปไข่ ปลายมน ออกดอกเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน
ผลแบบเมล็ดเดียวแข็ง รูปทรงรีกว้างหรือรูปไข่กลับ ผลสุกสีเหลือง เมล็ดรูปไข่ เป็นผลเดือนกรกฎาคมถึงกุมภาพันธ์
เปลือกนอกสีเทาอมดำ แตกเป็นร่องตามยาว
- ไม้ต้น สูง 10-25 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกัน รูปขอบขนาน ขอบใบมักจะเป็นซี่ฟันตื้นๆ บางจักห่างหรือแทบมองไม่เห็นชัด เนื้อใบค่อนข้างหนาคล้ายแผ่นหนัง เส้นใบมี 6-10 คู่ ก้านใบยาว 0.5-2 ซม. ดอกสีขาวครีม ออกเป็นกระจุกตามง่ามใบ มี 2-3 ดอก ก้านช่อดอกยาว 0.5-1.5 ซม. ก้านดอกย่อยยาว 5-11 มม. บางที่มีจุดสีน้ำตาลแดง กลีบรองดอก 5 กลีบ โคนเชื่อมติดกันปลายแยกรูปไตหรือกึ่งกลม กลีบดอกรูปไข่ 5 กลีบซ้อนทับกัน กว้าง 1.7-2.5 มม. ยาว 2.2-3.5 มม. ปลายมน เกสรผู้ 5 อัน ก้านเกสรผู้แบน ยาวประมาณ 1 มม. เชื่อมติดกันที่ครึ่งหนึ่ง หรือใกล้ๆ โคนดอก ผลรูปรีกว้างหรือรูปกลม สีเขียวหรือเขียวอมเหลือง กว้าง 2-6 ซม. ยาว 3-6.5 ซม.
การกระจายพันธุ์ :
- พบขึ้นกระจายทั่วไป ในป่าโปร่งที่ค่อนข้างชื้นโดยเฉพาะทางภาคเหนือ และภาคกลาง ที่ความสูงไม่เกิน 800 เมตร จากระดับน้ำทะเล
- พบในป่าโปร่งค่อนข้างชื้น
- พบขึ้นกระจายทั่วไป ในป่าโปร่งที่ค่อนข้างชื้นโดยเฉพาะทางภาคเหนือ และภาคกลาง ที่ความสูงไม่เกิน 800 เมตร จากระดับน้ำทะเล
รายละเอียดอื่นๆ ของแหล่งที่พบ :
- ป่าสงวนแห่งชาติป่าสาลีก ป่าเขาผาลาด ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงภู ป่าคำหัวแฮด ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาสวนกวาง ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่คำมี ป่าสงวนแห่งชาติป่ายางน้ำกลัดเหนือและป่ายางน้ำกลัดใต้ ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่จางฝั่งซ้าย ป่าสงวนแห่งชาติป่าลำน้ำน่านฝั่งขวา ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่วงก์ – แม่เปิน ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำเปื๋อย ป่าน้ำหย่วน และป่าน้ำลาว ป่าสงวนแห่งชาติป่าย่านยาว ป่าเขาวง และป่ากระซุม
- พื้นที่ชุ่มน้ำหนองบงคาย
- อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ อำเภอลับแล อุตรดิตถ์, อำเภอวังชิ้น อำเภอเด่นชัย แพร่
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่าแก่งคอย
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่าแก่งคอย
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขากระปุก-เขาเตาหม้อ
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขาชีโอน
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขาวงจันแดง
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าเขาภูหลวง
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าเขาภูหลวง
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า วังโป่ง-ชนแดน
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า วังโป่ง-ชนแดน
- อุทยานแห่งชาติ แก่งตะนะ
- อุทยานแห่งชาติ เขาพระวิหาร
- อุทยานแห่งชาติ คลองลาน
- อุทยานแห่งชาติ แจ้ซ้อน
- อุทยานแห่งชาติ ดอยภูนาง
- อุทยานแห่งชาติ ดอยหลวง
- อุทยานแห่งชาติ ไทรทอง
- อุทยานแห่งชาติ ไทรทอง
- อุทยานแห่งชาติ น้ำตกพาเจริญ
- อุทยานแห่งชาติ น้ำตกแม่สุรินทร์
- อุทยานแห่งชาติ น้ำตกโยง
- อุทยานแห่งชาติ น้ำตกสามหลั่น
- อุทยานแห่งชาติ ป่าหินงาม
- อุทยานแห่งชาติ ภูกระดึง
- อุทยานแห่งชาติ ภูผาเทิบ
- อุทยานแห่งชาติ ภูสวนทราย
- อุทยานแห่งชาติ ภูสวนทราย
- อุทยานแห่งชาติ แม่วะ
- อุทยานแห่งชาติ แม่วะ
- อุทยานแห่งชาติ รามคำแหง
- อุทยานแห่งชาติ ลำคลองงู
- อุทยานแห่งชาติ ศรีลานนา
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาเขียว-เขาชมภู่
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาเขียว-เขาชมภู่
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาเขียว-เขาชมภู่
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาประ-บางคราม
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาประ-บางคราม
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาสนามเพรียง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาอ่างฤาไน
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาอ่างฤาไน
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า คลองเครือหวาย
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า คลองพระยา
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดงใหญ่
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดอยผาช้าง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดอยผาช้าง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดอยผาช้าง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดอยเวียงหล้า
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ตะเบาะ-ห้วยใหญ่
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ตะเบาะ-ห้วยใหญ่
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ตะเบาะ-ห้วยใหญ่
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โตนปริวรรต
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ถ้ำเจ้าราม
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ถ้ำเจ้าราม
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ถ้ำเจ้าราม
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า น้ำปาด
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า น้ำปาด
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า น้ำปาด
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า บุณฑริก-ยอดมน
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า บุณฑริก-ยอดมน
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูขัด
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูเขียว
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูผาแดง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูเมี่ยง-ภูทอง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูเมี่ยง-ภูทอง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่จริม
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่ตื่น
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่ตื่น
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่ตื่น
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่น้ำภาชี
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่น้ำภาชี
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่ยวมฝั่งขวา
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ลุ่มน้ำปาย
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เวียงลอ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เวียงลอ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สลักพระ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สลักพระ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยขาแข้ง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยศาลา
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยศาลา
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยศาลา
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรมหลวงชุมพร
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สลักพระ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยขาแข้ง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยศาลา
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยศาลา
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยศาลา
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรมหลวงชุมพร
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุ้มผาง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุ้มผาง
แหล่งที่พบภายในประเทศ :
- อุตรดิตถ์,แพร่
- สระบุรี
- สระบุรี
- เพชรบุรี
- ชลบุรี
- สระบุรี
- นครราชสีมา
- นครราชสีมา
- เพชรบูรณ์
- เพชรบูรณ์
- อุบลราชธานี
- อุบลราชธานี, ศรีสะเกษ
- กำแพงเพชร
- ลำปาง
- พะเยา
- เชียงราย, ลำปาง, พะเยา
- ชัยภูมิ
- ชัยภูมิ
- ตาก
- แม่ฮ่องสอน
- นครศรีธรรมราช
- สระบุรี
- ชัยภูมิ
- เลย
- มุกดาหาร
- เลย
- เลย
- ลำปาง, ตาก
- ลำปาง, ตาก
- สุโขทัย
- กาญจนบุรี
- เชียงใหม่
- ชลบุรี
- ชลบุรี
- ชลบุรี
- กระบี่, ตรัง
- กระบี่, ตรัง
- กำแพงเพชร
- ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, สระแก้ว
- ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, สระแก้ว
- จันทบุรี
- กระบี่, สุราษฎร์ธานี
- บุรีรัมย์
- พะเยา, น่าน
- พะเยา, น่าน
- พะเยา, น่าน
- แม่ฮ่องสอน
- ชัยภูมิ, เพชรบูรณ์
- ชัยภูมิ, เพชรบูรณ์
- ชัยภูมิ, เพชรบูรณ์
- พังงา
- สุโขทัย, ลำปาง
- สุโขทัย, ลำปาง
- สุโขทัย, ลำปาง
- กาญจนบุรี, ตาก
- กาญจนบุรี, ตาก
- กาญจนบุรี, ตาก
- กาญจนบุรี, ตาก
- อุตรดิตถ์
- อุตรดิตถ์
- อุตรดิตถ์
- อุบลราชธานี
- อุบลราชธานี
- พิษณุโลก
- ชัยภูมิ
- เพชรบูรณ์
- พิษณุโลก
- พิษณุโลก
- อุตรดิตถ์
- ตาก
- ตาก
- ตาก
- ราชบุรี
- ราชบุรี
- แม่ฮ่องสอน
- แม่ฮ่องสอน
- พะเยา
- พะเยา
- กาญจนบุรี
- กาญจนบุรี
- อุทัยธานี, กาญจนบุรี, ตาก
- สุรินทร์
- สุรินทร์
- สุรินทร์
- ศรีสะเกษ
- ศรีสะเกษ
- ศรีสะเกษ
- ชุมพร
- กาญจนบุรี
- อุทัยธานี, กาญจนบุรี, ตาก
- สุรินทร์
- สุรินทร์
- สุรินทร์
- ศรีสะเกษ
- ศรีสะเกษ
- ศรีสะเกษ
- ชุมพร
- ตาก
- ตาก
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกะมัง
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา :
- จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ ลำต้นมีความสูงได้ประมาณ 20-35 เมตร แตกกิ่งก้านทึบ เรือนยอดมีลักษณะกลมทึบ เปลือกต้นเป็นสีเทาอมดำแตกเป็นร่องตามยาว ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง และการปักชำกิ่ง จัดเป็นพรรณไม้กลางแจ้งที่เจริญเติบโตได้ดีในดินทุกสภาพ ชอบดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี มีแสงแดดเต็มวัน เป็นพรรณไม้ที่มักพบขึ้นตามบริเวณป่าราบ ป่าโปร่งที่ค่อนข้างชื้น โดยเฉพาะทางภาคเหนือและภาคกลางของประเทศไทย ที่ระดับความสูงไม่เกิน 800 เมตร จากระดับน้ำทะเล ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกัน ลักษณะของใบเป็นรูปค่อนข้างรีหรือรูปขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบสอบแถบเข้าหากัน ส่วนขอบใบเป็นหยักหรือจักเป็นซี่ฟันตื้น ๆ จักห่างหรือแทบมองเห็นไม่ชัด ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1-3.5 นิ้ว และยาวประมาณ 1.5-9 นิ้ว แผ่นใบค่อนข้างหนาคล้ายแผ่นหนัง ผิวใบด้านบนเป็นสีเขียวเข้ม เส้นแขนงใบมีข้างละ 6-10 เส้น ก้านใบยาวประมาณ 0.5-2 เซนติเมตร ใบอ่อนเป็นสีเขียวแก่ เมื่อแห้งแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวมะกอกหรือสีเขียวอมเทา ออกดอกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบ มีประมาณ 2-3 ดอก ก้านช่อดอกยาวประมาณ 0.5-1.5 เซนติเมตร ส่วนก้านดอกย่อยยาวประมาณ 5-11 มิลลิเมตร บางทีมีจุดสีน้ำตาลแดง ดอกเป็นสีขาวนวลหรือสีเหลืองอมส้ม กลีบดอกเป็นรูปไข่หรือรูปรี มี 5 กลีบ ซ้อนทับกัน มีขนาดกว้างประมาณ 1.7-2.5 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 2.2-3.5 มิลลิเมตร ปลายกลีบมน ส่วนกลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ โคนกลีบเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็นรูปไจหรือกึ่งกลม ค่อนข้างมน ยาวได้ประมาณ 1-2 มิลลิเมตร กลางดอกมีเกสรเชื่อมติดกับกลีบดอกข้างใน ดอกมีเกสรเพศผู้ 5 อัน ก้านเกสรเพศผู้แบน ยาวได้ประมาณ 1 มิลลิเมตร เชื่อมติดกันที่ครึ่งหนึ่งหรือใกล้ ๆ โคนดอก ออกดอกในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน ผลมีลักษณะเป็นรูปกลมหรือรูปรี ผลมีขนาดกว้างประมาณ 1-2.5 นิ้ว และยาวประมาณ 1.5-3 นิ้ว ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อแก่หรือสุกเต็มที่แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมเหลือง ภายในมีเมล็ดรูปไข่หลายเมล็ด เป็นผลในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
- จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง ไม่ผลัดใบ ลำต้นมีความสูงได้ประมาณ 20-35 เมตร แตกกิ่งก้านทึบ เรือนยอดมีลักษณะกลมทึบ เปลือกต้นเป็นสีเทาอมดำแตกเป็นร่องตามยาว ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง และการปักชำกิ่ง จัดเป็นพรรณไม้กลางแจ้งที่เจริญเติบโตได้ดีในดินทุกสภาพ ชอบดินร่วนที่ระบายน้ำได้ดี มีแสงแดดเต็มวัน เป็นพรรณไม้ที่มักพบขึ้นตามบริเวณป่าราบ ป่าโปร่งที่ค่อนข้างชื้น โดยเฉพาะทางภาคเหนือและภาคกลางของประเทศไทย ที่ระดับความสูงไม่เกิน 800 เมตร จากระดับน้ำทะเล ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกัน ลักษณะของใบเป็นรูปค่อนข้างรีหรือรูปขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบสอบแถบเข้าหากัน ส่วนขอบใบเป็นหยักหรือจักเป็นซี่ฟันตื้น ๆ จักห่างหรือแทบมองเห็นไม่ชัด ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1-3.5 นิ้ว และยาวประมาณ 1.5-9 นิ้ว แผ่นใบค่อนข้างหนาคล้ายแผ่นหนัง ผิวใบด้านบนเป็นสีเขียวเข้ม เส้นแขนงใบมีข้างละ 6-10 เส้น ก้านใบยาวประมาณ 0.5-2 เซนติเมตร ใบอ่อนเป็นสีเขียวแก่ เมื่อแห้งแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวมะกอกหรือสีเขียวอมเทา ออกดอกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบ มีประมาณ 2-3 ดอก ก้านช่อดอกยาวประมาณ 0.5-1.5 เซนติเมตร ส่วนก้านดอกย่อยยาวประมาณ 5-11 มิลลิเมตร บางทีมีจุดสีน้ำตาลแดง ดอกเป็นสีขาวนวลหรือสีเหลืองอมส้ม กลีบดอกเป็นรูปไข่หรือรูปรี มี 5 กลีบ ซ้อนทับกัน มีขนาดกว้างประมาณ 1.7-2.5 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 2.2-3.5 มิลลิเมตร ปลายกลีบมน ส่วนกลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ โคนกลีบเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็นรูปไจหรือกึ่งกลม ค่อนข้างมน ยาวได้ประมาณ 1-2 มิลลิเมตร กลางดอกมีเกสรเชื่อมติดกับกลีบดอกข้างใน ดอกมีเกสรเพศผู้ 5 อัน ก้านเกสรเพศผู้แบน ยาวได้ประมาณ 1 มิลลิเมตร เชื่อมติดกันที่ครึ่งหนึ่งหรือใกล้ ๆ โคนดอก ออกดอกในช่วงประมาณเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน ผลมีลักษณะเป็นรูปกลมหรือรูปรี ผลมีขนาดกว้างประมาณ 1-2.5 นิ้ว และยาวประมาณ 1.5-3 นิ้ว ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อแก่หรือสุกเต็มที่แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมเหลือง ภายในมีเมล็ดรูปไข่หลายเมล็ด เป็นผลในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
การขยายพันธุ์ :
- การเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง และการปักชำกิ่ง
- การเพาะเมล็ด การตอนกิ่ง และการปักชำกิ่ง
ข้อมูลการนำไปใช้ประโยชน์
รายละเอียดการนำมาใช้ประโยชน์ :
- อาหาร,สมุนไพร,ไม้ดอกไม้ประดับ
สถานภาพการคุกคาม
สถานภาพการคุกคาม (โลก) :
ที่มาของข้อมูล