ข้อมูลสิ่งมีชีวิต
วันที่อัพเดท : 12 มิ.ย. 2566 12:11 น.
วันที่สร้าง: 12 มิ.ย. 2566 12:11 น.
ข้อมูลทั่วไป
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
-
ไม้ต้น สูงถึง 15 ม. ใบเดี่ยว เรียนแบบเวียน รูปค่อนข้างกลม หรือรูปหัวใจกว้าง เส้นผ่านศูนย์กลาง 15-35 ซม. ขอบใบเรียบหรือเว้าเป็นพูตื้น ใบอ่อนมีขนรูปดาวหนาแน่น ดอกยาว 5-7.5 ซม. สีเหลืองสดมีแต้มสีม่วงตรงกลาง กลีบเลี้ยง 2-2.5 ซม. มีหนามสั้นด้านนอก กลีบดอกคล้ายรูปกรวย ผลแห้งแตกเป็น 10 พู ออกดอก เดือน มี.ค.-พ.ค.
-
ไม้ต้น สูงถึง 15 ม. ใบเดี่ยว เรียนแบบเวียน รูปค่อนข้างกลม หรือรูปหัวใจกว้าง เส้นผ่านศูนย์กลาง 15-35 ซม. ขอบใบเรียบหรือเว้าเป็นพูตื้น ใบอ่อนมีขนรูปดาวหนาแน่น ดอกยาว 5-7.5 ซม. สีเหลืองสดมีแต้มสีม่วงตรงกลาง กลีบเลี้ยง 2-2.5 ซม. มีหนามสั้นด้านนอก กลีบดอกคล้ายรูปกรวย ผลแห้งแตกเป็น 10 พู ออกดอก เดือน มี.ค.-พ.ค.
แหล่งที่พบภายในประเทศ :
-
พังงา
-
จันทบุรี
-
นครศรีธรรมราช
-
นครศรีธรรมราช
-
สระบุรี, นครราชสีมา, ปราจีนบุรี, นครนายก
-
พะเยา
-
สตูล
-
เพชรบูรณ์, พิษณุโลก
-
นครศรีธรรมราช
-
ยะลา
-
เชียงใหม่
-
สุโขทัย
-
นครศรีธรรมราช, สุราษฎร์ธานี
-
กาญจนบุรี
-
ตรัง, พัทลุง, สตูล, สงขลา
-
จันทบุรี
-
จันทบุรี
-
สุราษฎร์ธานี, ระนอง
-
สุราษฎร์ธานี
-
สุราษฎร์ธานี
-
ชุมพร, ระนอง
-
บุรีรัมย์
-
พะเยา, น่าน
-
แม่ฮ่องสอน
-
สุโขทัย, ลำปาง
-
กาญจนบุรี, ตาก
-
อุตรดิตถ์
-
อุบลราชธานี
-
ชัยภูมิ
-
พิษณุโลก
-
อุตรดิตถ์
-
ตาก
-
ราชบุรี
-
อุบลราชธานี
-
แพร่, อุตรดิตถ์
-
แม่ฮ่องสอน
-
พะเยา
-
เชียงใหม่
-
อุทัยธานี, กาญจนบุรี, ตาก
-
ชุมพร
-
ชุมพร
-
เชียงใหม่
-
อุทัยธานี, กาญจนบุรี, ตาก
-
ชุมพร
-
ชุมพร
-
ตาก
รายละเอียดอื่นๆ ของแหล่งที่พบ :
-
อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา
-
อุทยานแห่งชาติ เขาคิชฌกูฏ
-
อุทยานแห่งชาติ เขานัน
-
อุทยานแห่งชาติ เขานัน
-
อุทยานแห่งชาติ เขาใหญ่
-
อุทยานแห่งชาติ ดอยภูนาง
-
อุทยานแห่งชาติ ตะรุเตา
-
อุทยานแห่งชาติ ทุ่งแสลงหลวง
-
อุทยานแห่งชาติ น้ำตกโยง
-
อุทยานแห่งชาติ บางลาง
-
อุทยานแห่งชาติ ศรีลานนา
-
อุทยานแห่งชาติ ศรีสัชนาลัย
-
อุทยานแห่งชาติ หาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้
-
อุทยานแห่งชาติ เอราวัณ
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาบรรทัด
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า คลองเครือหวาย
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า คลองเครือหวาย
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า คลองนาคา
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า คลองยัน
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า คลองแสง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ควนแม่ยายหม่อน
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดงใหญ่
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดอยผาช้าง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดอยเวียงหล้า
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ถ้ำเจ้าราม
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า น้ำปาด
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า บุณฑริก-ยอดมน
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ผาผึ้ง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูขัด
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่จริม
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่ตื่น
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่น้ำภาชี
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ยอดโดม
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ลำน้ำน่านฝั่งขวา
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ลุ่มน้ำปาย
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เวียงลอ
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สะเมิง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยขาแข้ง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรมหลวงชุมพร
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรมหลวงชุมพร
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สะเมิง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยขาแข้ง
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรมหลวงชุมพร
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรมหลวงชุมพร
-
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุ้มผาง
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา :
-
ไม้ต้น สูงได้ถึง 10 ม. มีขนกระจุกยาวหนาแน่นตามกิ่ง หูใบ แผ่นใบ ริ้วประดับ ช่อดอก และกลีบเลี้ยง ขนยาวได้ถึง 8 มม. หูใบรูปขอบขนาน ยาว 6-10 ซม. ร่วงเร็ว ใบรูปไข่กว้างหรือเกือบกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 20-36 ซม. ปลายเป็นติ่งแหลมยาว โคนรูปหัวใจ เส้นโคนใบ 7 หรือ 9 เส้น มีต่อมตามเส้นแขนงใบ ก้านใบยาว 15-30 ซม. ช่อดอกออกที่ปลายกิ่ง ยาวได้ถึง 30 ซม. ก้านดอกยาว 2.5-3 ซม. ใบประดับคล้ายหูใบ มี 1 คู่ โคนเชื่อมติดกัน ริ้วประดับมี 10-12 อัน โคนเชื่อมติดกัน รูปใบหอก ยาวได้ถึง 3 ซม. กลีบเลี้ยงรูปใบหอก ยาวเท่า ๆ ริ้วประดับ ดอกรูประฆัง สีเหลือง โคนด้านในมีปื้นสีน้ำตาลอมม่วง ดอกบานเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6 ซม. กลีบรูปไข่กลับ ยาว 4.5-6 ซม. หลอดเกสรเพศผู้ยาวประมาณ 3 ซม. ก้านชูอับเรณูสั้น ก้านเกสรเพศเมียมีขนหนาแน่น ผลรูปขอบขนาน ยาว 2.5-3 ซม. มีขนหยาบแข็งยาวหนาแน่น
พบที่อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีน คาบสมุทรมลายู ชวา บอรฺ์เนียว และฟิลิปปินส์ (ปาละวัน) ในไทยพบแทบทุกภาค ส่วนมากพบทางภาคใต้ ขึ้นตามป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น และป่าดิบเขา หรือชายป่า ความสูงถึงประมาณ 1400 เมตร มีสรรพคุณเป็นยาสมาน เปลือกใช้ทำเชือกและกระดาษ บางครั้งเรียกทางการค้าในการปลูกสวนป่าว่า พญาคชราช เนื่องจากเนื้อไม้มีลายคล้ายไม้สัก แต่ไม่ทนทาน
พบที่อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีน คาบสมุทรมลายู ชวา บอรฺ์เนียว และฟิลิปปินส์ (ปาละวัน) ในไทยพบแทบทุกภาค ส่วนมากพบทางภาคใต้ ขึ้นตามป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น และป่าดิบเขา หรือชายป่า ความสูงถึงประมาณ 1400 เมตร มีสรรพคุณเป็นยาสมาน เปลือกใช้ทำเชือกและกระดาษ บางครั้งเรียกทางการค้าในการปลูกสวนป่าว่า พญาคชราช เนื่องจากเนื้อไม้มีลายคล้ายไม้สัก แต่ไม่ทนทาน
-
ไม้ต้น สูงได้ถึง 10 ม. มีขนกระจุกยาวหนาแน่นตามกิ่ง หูใบ แผ่นใบ ริ้วประดับ ช่อดอก และกลีบเลี้ยง ขนยาวได้ถึง 8 มม. หูใบรูปขอบขนาน ยาว 6-10 ซม. ร่วงเร็ว ใบรูปไข่กว้างหรือเกือบกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 20-36 ซม. ปลายเป็นติ่งแหลมยาว โคนรูปหัวใจ เส้นโคนใบ 7 หรือ 9 เส้น มีต่อมตามเส้นแขนงใบ ก้านใบยาว 15-30 ซม. ช่อดอกออกที่ปลายกิ่ง ยาวได้ถึง 30 ซม. ก้านดอกยาว 2.5-3 ซม. ใบประดับคล้ายหูใบ มี 1 คู่ โคนเชื่อมติดกัน ริ้วประดับมี 10-12 อัน โคนเชื่อมติดกัน รูปใบหอก ยาวได้ถึง 3 ซม. กลีบเลี้ยงรูปใบหอก ยาวเท่า ๆ ริ้วประดับ ดอกรูประฆัง สีเหลือง โคนด้านในมีปื้นสีน้ำตาลอมม่วง ดอกบานเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6 ซม. กลีบรูปไข่กลับ ยาว 4.5-6 ซม. หลอดเกสรเพศผู้ยาวประมาณ 3 ซม. ก้านชูอับเรณูสั้น ก้านเกสรเพศเมียมีขนหนาแน่น ผลรูปขอบขนาน ยาว 2.5-3 ซม. มีขนหยาบแข็งยาวหนาแน่น
พบที่อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีน คาบสมุทรมลายู ชวา บอรฺ์เนียว และฟิลิปปินส์ (ปาละวัน) ในไทยพบแทบทุกภาค ส่วนมากพบทางภาคใต้ ขึ้นตามป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น และป่าดิบเขา หรือชายป่า ความสูงถึงประมาณ 1400 เมตร มีสรรพคุณเป็นยาสมาน เปลือกใช้ทำเชือกและกระดาษ บางครั้งเรียกทางการค้าในการปลูกสวนป่าว่า พญาคชราช เนื่องจากเนื้อไม้มีลายคล้ายไม้สัก แต่ไม่ทนทาน
พบที่อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีน คาบสมุทรมลายู ชวา บอรฺ์เนียว และฟิลิปปินส์ (ปาละวัน) ในไทยพบแทบทุกภาค ส่วนมากพบทางภาคใต้ ขึ้นตามป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น และป่าดิบเขา หรือชายป่า ความสูงถึงประมาณ 1400 เมตร มีสรรพคุณเป็นยาสมาน เปลือกใช้ทำเชือกและกระดาษ บางครั้งเรียกทางการค้าในการปลูกสวนป่าว่า พญาคชราช เนื่องจากเนื้อไม้มีลายคล้ายไม้สัก แต่ไม่ทนทาน
-
ไม้ต้น สูงได้ถึง 10 ม. มีขนกระจุกยาวหนาแน่นตามกิ่ง หูใบ แผ่นใบ ริ้วประดับ ช่อดอก และกลีบเลี้ยง ขนยาวได้ถึง 8 มม. หูใบรูปขอบขนาน ยาว 6-10 ซม. ร่วงเร็ว ใบรูปไข่กว้างหรือเกือบกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 20-36 ซม. ปลายเป็นติ่งแหลมยาว โคนรูปหัวใจ เส้นโคนใบ 7 หรือ 9 เส้น มีต่อมตามเส้นแขนงใบ ก้านใบยาว 15-30 ซม. ช่อดอกออกที่ปลายกิ่ง ยาวได้ถึง 30 ซม. ก้านดอกยาว 2.5-3 ซม. ใบประดับคล้ายหูใบ มี 1 คู่ โคนเชื่อมติดกัน ริ้วประดับมี 10-12 อัน โคนเชื่อมติดกัน รูปใบหอก ยาวได้ถึง 3 ซม. กลีบเลี้ยงรูปใบหอก ยาวเท่า ๆ ริ้วประดับ ดอกรูประฆัง สีเหลือง โคนด้านในมีปื้นสีน้ำตาลอมม่วง ดอกบานเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6 ซม. กลีบรูปไข่กลับ ยาว 4.5-6 ซม. หลอดเกสรเพศผู้ยาวประมาณ 3 ซม. ก้านชูอับเรณูสั้น ก้านเกสรเพศเมียมีขนหนาแน่น ผลรูปขอบขนาน ยาว 2.5-3 ซม. มีขนหยาบแข็งยาวหนาแน่น
พบที่อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีน คาบสมุทรมลายู ชวา บอรฺ์เนียว และฟิลิปปินส์ (ปาละวัน) ในไทยพบแทบทุกภาค ส่วนมากพบทางภาคใต้ ขึ้นตามป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น และป่าดิบเขา หรือชายป่า ความสูงถึงประมาณ 1400 เมตร มีสรรพคุณเป็นยาสมาน เปลือกใช้ทำเชือกและกระดาษ บางครั้งเรียกทางการค้าในการปลูกสวนป่าว่า พญาคชราช เนื่องจากเนื้อไม้มีลายคล้ายไม้สัก แต่ไม่ทนทาน
พบที่อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีน คาบสมุทรมลายู ชวา บอรฺ์เนียว และฟิลิปปินส์ (ปาละวัน) ในไทยพบแทบทุกภาค ส่วนมากพบทางภาคใต้ ขึ้นตามป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น และป่าดิบเขา หรือชายป่า ความสูงถึงประมาณ 1400 เมตร มีสรรพคุณเป็นยาสมาน เปลือกใช้ทำเชือกและกระดาษ บางครั้งเรียกทางการค้าในการปลูกสวนป่าว่า พญาคชราช เนื่องจากเนื้อไม้มีลายคล้ายไม้สัก แต่ไม่ทนทาน
-
ไม้ต้น สูงได้ถึง 10 ม. มีขนกระจุกยาวหนาแน่นตามกิ่ง หูใบ แผ่นใบ ริ้วประดับ ช่อดอก และกลีบเลี้ยง ขนยาวได้ถึง 8 มม. หูใบรูปขอบขนาน ยาว 6-10 ซม. ร่วงเร็ว ใบรูปไข่กว้างหรือเกือบกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 20-36 ซม. ปลายเป็นติ่งแหลมยาว โคนรูปหัวใจ เส้นโคนใบ 7 หรือ 9 เส้น มีต่อมตามเส้นแขนงใบ ก้านใบยาว 15-30 ซม. ช่อดอกออกที่ปลายกิ่ง ยาวได้ถึง 30 ซม. ก้านดอกยาว 2.5-3 ซม. ใบประดับคล้ายหูใบ มี 1 คู่ โคนเชื่อมติดกัน ริ้วประดับมี 10-12 อัน โคนเชื่อมติดกัน รูปใบหอก ยาวได้ถึง 3 ซม. กลีบเลี้ยงรูปใบหอก ยาวเท่า ๆ ริ้วประดับ ดอกรูประฆัง สีเหลือง โคนด้านในมีปื้นสีน้ำตาลอมม่วง ดอกบานเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6 ซม. กลีบรูปไข่กลับ ยาว 4.5-6 ซม. หลอดเกสรเพศผู้ยาวประมาณ 3 ซม. ก้านชูอับเรณูสั้น ก้านเกสรเพศเมียมีขนหนาแน่น ผลรูปขอบขนาน ยาว 2.5-3 ซม. มีขนหยาบแข็งยาวหนาแน่น
พบที่อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีน คาบสมุทรมลายู ชวา บอรฺ์เนียว และฟิลิปปินส์ (ปาละวัน) ในไทยพบแทบทุกภาค ส่วนมากพบทางภาคใต้ ขึ้นตามป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น และป่าดิบเขา หรือชายป่า ความสูงถึงประมาณ 1400 เมตร มีสรรพคุณเป็นยาสมาน เปลือกใช้ทำเชือกและกระดาษ บางครั้งเรียกทางการค้าในการปลูกสวนป่าว่า พญาคชราช เนื่องจากเนื้อไม้มีลายคล้ายไม้สัก แต่ไม่ทนทาน
พบที่อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีน คาบสมุทรมลายู ชวา บอรฺ์เนียว และฟิลิปปินส์ (ปาละวัน) ในไทยพบแทบทุกภาค ส่วนมากพบทางภาคใต้ ขึ้นตามป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น และป่าดิบเขา หรือชายป่า ความสูงถึงประมาณ 1400 เมตร มีสรรพคุณเป็นยาสมาน เปลือกใช้ทำเชือกและกระดาษ บางครั้งเรียกทางการค้าในการปลูกสวนป่าว่า พญาคชราช เนื่องจากเนื้อไม้มีลายคล้ายไม้สัก แต่ไม่ทนทาน