ข้อมูลสิ่งมีชีวิต


วันที่อัพเดท : 12 มิ.ย. 2566 12:11 น.
วันที่สร้าง: 12 มิ.ย. 2566 12:11 น.
ข้อมูลทั่วไป
แหล่งที่พบภายในประเทศ :
- พังงา
- เชียงใหม่
- สงขลา
- สงขลา
- สงขลา
- จันทบุรี
- ลำปาง
- สงขลา
- นครราชสีมา
- เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์
- เพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์
- อุบลราชธานี, ศรีสะเกษ
- จันทบุรี
- สตูล
- สตูล
- ชัยภูมิ
- ชัยภูมิ
- ประจวบคีรีขันธ์
- สระแก้ว
- มุกดาหาร
- ตรัง, พัทลุง, สตูล, สงขลา
- ตรัง, พัทลุง, สตูล, สงขลา
- จันทบุรี
- จันทบุรี
- ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, สระแก้ว
- ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, สระแก้ว
- บุรีรัมย์
- พะเยา, น่าน
- สตูล, สงขลา
- อุบลราชธานี
- อุบลราชธานี
- กาฬสินธุ์
- ราชบุรี
- อุบลราชธานี
- พะเยา
- สุรินทร์
- ศรีสะเกษ
- สุรินทร์
- ศรีสะเกษ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกะมัง
รายละเอียดอื่นๆ ของแหล่งที่พบ :
- อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา
- ป่าดอยอินทนนท์, เขตอำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่วาง และกิ่งอำเภอดอยหล่อ
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขาปะช้าง-แหลมขาม
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขาเหรง
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขาเหรง
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า คุ้งกระเบน
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ดอยพระบาท
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่ากราด
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าเขาภูหลวง
- อุทยานแห่งชาติ แก่งกระจาน
- อุทยานแห่งชาติ แก่งกระจาน
- อุทยานแห่งชาติ เขาพระวิหาร
- อุทยานแห่งชาติ เขาสิบห้าชั้น
- อุทยานแห่งชาติ ตะรุเตา
- อุทยานแห่งชาติ ทะเลบัน
- อุทยานแห่งชาติ ไทรทอง
- อุทยานแห่งชาติ ไทรทอง
- อุทยานแห่งชาติ น้ำตกห้วยยาง
- อุทยานแห่งชาติ ปางสีดา
- อุทยานแห่งชาติ ภูผาเทิบ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาบรรทัด
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาบรรทัด
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาสอยดาว
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาสอยดาว
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาอ่างฤาไน
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาอ่างฤาไน
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดงใหญ่
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดอยผาช้าง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โตนงาช้าง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า บุณฑริก-ยอดมน
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า บุณฑริก-ยอดมน
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูสีฐาน
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่น้ำภาชี
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ยอดโดม
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เวียงลอ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยศาลา
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยศาลา
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา :
- ต้นพลอง : เป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลางไม่ผลัดใบ มีความสูงของต้นประมาณ 5-7 เมตร บ้างว่าสูงได้ประมาณ 6-15 เมตร ลำต้นตั้งตรง เรือนยอดเป็นพุ่มกลมแตกกิ่งก้านต่ำ เปลือกต้นด้านนอกเป็นสีน้ำตาลแตกเป็นสะเก็ดบาง ๆ หรือเป็นร่องตื้น ๆ เปลือกบาง ส่วนเปลือกด้านในเป็นสีเหลืองอ่อน
ใบพลอง : ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามที่บริเวณปลายกิ่ง ลักษณะของใบเป็นรูปรีหรือรูปไข่มน ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.5-6.5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 5-12.5 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบแหลมหรือมน ส่วนขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ใบเป็นสีเขียวเข้มและเป็นมัน เรียบเกลี้ยงทั้งสองด้าน ส่วนท้องใบเป็นสีอ่อน
ดอกพลอง : ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจุกซ้อนกรอบ โดยจะออกตามข้อต้น ตามง่ามใบ หรือตามกิ่ง ดอกย่อยมีขนาดเล็ก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางดอกประมาณ 0.3 เซนติเมตร โดยดอกตูมจะเป็นสีชมพู เมื่อบานแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงน้ำเงิน ดอกมีกลีบดอก 4 กลีบ และจะบานเกือบพร้อมกันทั้งต้น โดยจะออกดอกในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม
ผลพลอง : ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมหรือกลมรี (คล้ายผลหว้า) มีขนาดประมาณ 0.5-0.8 เซนติเมตร ผลอ่อนเป็นสีชมพูอมม่วงเมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงแดงดำหรือเป็นสีน้ำเงินเกือบดำ มีเนื้อบาง ๆ หุ้ม โดยจะออกผลในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม
- ต้นพลอง : เป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลางไม่ผลัดใบ มีความสูงของต้นประมาณ 5-7 เมตร บ้างว่าสูงได้ประมาณ 6-15 เมตร ลำต้นตั้งตรง เรือนยอดเป็นพุ่มกลมแตกกิ่งก้านต่ำ เปลือกต้นด้านนอกเป็นสีน้ำตาลแตกเป็นสะเก็ดบาง ๆ หรือเป็นร่องตื้น ๆ เปลือกบาง ส่วนเปลือกด้านในเป็นสีเหลืองอ่อน
ใบพลอง : ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามที่บริเวณปลายกิ่ง ลักษณะของใบเป็นรูปรีหรือรูปไข่มน ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.5-6.5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 5-12.5 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบแหลมหรือมน ส่วนขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ใบเป็นสีเขียวเข้มและเป็นมัน เรียบเกลี้ยงทั้งสองด้าน ส่วนท้องใบเป็นสีอ่อน
ดอกพลอง : ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจุกซ้อนกรอบ โดยจะออกตามข้อต้น ตามง่ามใบ หรือตามกิ่ง ดอกย่อยมีขนาดเล็ก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางดอกประมาณ 0.3 เซนติเมตร โดยดอกตูมจะเป็นสีชมพู เมื่อบานแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงน้ำเงิน ดอกมีกลีบดอก 4 กลีบ และจะบานเกือบพร้อมกันทั้งต้น โดยจะออกดอกในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม
ผลพลอง : ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมหรือกลมรี (คล้ายผลหว้า) มีขนาดประมาณ 0.5-0.8 เซนติเมตร ผลอ่อนเป็นสีชมพูอมม่วงเมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงแดงดำหรือเป็นสีน้ำเงินเกือบดำ มีเนื้อบาง ๆ หุ้ม โดยจะออกผลในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม
- ต้นพลอง : เป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลางไม่ผลัดใบ มีความสูงของต้นประมาณ 5-7 เมตร บ้างว่าสูงได้ประมาณ 6-15 เมตร ลำต้นตั้งตรง เรือนยอดเป็นพุ่มกลมแตกกิ่งก้านต่ำ เปลือกต้นด้านนอกเป็นสีน้ำตาลแตกเป็นสะเก็ดบาง ๆ หรือเป็นร่องตื้น ๆ เปลือกบาง ส่วนเปลือกด้านในเป็นสีเหลืองอ่อน
ใบพลอง : ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามที่บริเวณปลายกิ่ง ลักษณะของใบเป็นรูปรีหรือรูปไข่มน ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.5-6.5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 5-12.5 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบแหลมหรือมน ส่วนขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ใบเป็นสีเขียวเข้มและเป็นมัน เรียบเกลี้ยงทั้งสองด้าน ส่วนท้องใบเป็นสีอ่อน
ดอกพลอง : ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจุกซ้อนกรอบ โดยจะออกตามข้อต้น ตามง่ามใบ หรือตามกิ่ง ดอกย่อยมีขนาดเล็ก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางดอกประมาณ 0.3 เซนติเมตร โดยดอกตูมจะเป็นสีชมพู เมื่อบานแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงน้ำเงิน ดอกมีกลีบดอก 4 กลีบ และจะบานเกือบพร้อมกันทั้งต้น โดยจะออกดอกในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม
ผลพลอง : ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมหรือกลมรี (คล้ายผลหว้า) มีขนาดประมาณ 0.5-0.8 เซนติเมตร ผลอ่อนเป็นสีชมพูอมม่วงเมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงแดงดำหรือเป็นสีน้ำเงินเกือบดำ มีเนื้อบาง ๆ หุ้ม โดยจะออกผลในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม
- ต้นพลอง : เป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลางไม่ผลัดใบ มีความสูงของต้นประมาณ 5-7 เมตร บ้างว่าสูงได้ประมาณ 6-15 เมตร ลำต้นตั้งตรง เรือนยอดเป็นพุ่มกลมแตกกิ่งก้านต่ำ เปลือกต้นด้านนอกเป็นสีน้ำตาลแตกเป็นสะเก็ดบาง ๆ หรือเป็นร่องตื้น ๆ เปลือกบาง ส่วนเปลือกด้านในเป็นสีเหลืองอ่อน
ใบพลอง : ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามที่บริเวณปลายกิ่ง ลักษณะของใบเป็นรูปรีหรือรูปไข่มน ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2.5-6.5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 5-12.5 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบแหลมหรือมน ส่วนขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง ใบเป็นสีเขียวเข้มและเป็นมัน เรียบเกลี้ยงทั้งสองด้าน ส่วนท้องใบเป็นสีอ่อน
ดอกพลอง : ออกดอกเป็นช่อแบบช่อกระจุกซ้อนกรอบ โดยจะออกตามข้อต้น ตามง่ามใบ หรือตามกิ่ง ดอกย่อยมีขนาดเล็ก มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางดอกประมาณ 0.3 เซนติเมตร โดยดอกตูมจะเป็นสีชมพู เมื่อบานแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงน้ำเงิน ดอกมีกลีบดอก 4 กลีบ และจะบานเกือบพร้อมกันทั้งต้น โดยจะออกดอกในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม
ผลพลอง : ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลมหรือกลมรี (คล้ายผลหว้า) มีขนาดประมาณ 0.5-0.8 เซนติเมตร ผลอ่อนเป็นสีชมพูอมม่วงเมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงแดงดำหรือเป็นสีน้ำเงินเกือบดำ มีเนื้อบาง ๆ หุ้ม โดยจะออกผลในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม
การขยายพันธุ์ :
- วิธีการเพาะเมล็ด
- วิธีการเพาะเมล็ด
- วิธีการเพาะเมล็ด
- วิธีการเพาะเมล็ด