ข้อมูลสิ่งมีชีวิต


วันที่อัพเดท : 12 มิ.ย. 2566 12:11 น.
วันที่สร้าง: 12 มิ.ย. 2566 12:11 น.
ข้อมูลทั่วไป
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
- ไม้ยืนต้นขนาดกว้าง สูง 4-15 ม. ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย 3 ใบ รูปหอกหรือรูปขอบขนาน กว้าง 1.5-6.5 ซม. ยาว 5-20 ซม. โคนใบสอบแคบและเบี้ยวเล็กน้อย ปลายใบเรียวแหลม ดอกสีขาวถึงสีเหลืองอ่อน ออกเป็นช่อที่ปลายยอด กลีบรองดอก 4 กลีบ รูปไข่ปลายแหลม กลีบดอก 4 กลีบ รูปค่อนข้างกลมหรือรี ขนาดกว้าง 1-2.5 ซม. ยาว 1.5-3 ซม. เกสรผู้สีม่วงมีจำนวนมาก ผลสีเทานวล รูปรี กว้าง 1.5-4.5 ซม. ยาว 2-6 ซม. เปลือกหนา ผิวขรุขระและเป็นขุย เมล็ดจำนวนมากสีน้ำตาลเข้ม รูปเกือกม้า
- ไม้ยืนต้นขนาดกว้าง สูง 4-15 ม. ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย 3 ใบ รูปหอกหรือรูปขอบขนาน กว้าง 1.5-6.5 ซม. ยาว 5-20 ซม. โคนใบสอบแคบและเบี้ยวเล็กน้อย ปลายใบเรียวแหลม ดอกสีขาวถึงสีเหลืองอ่อน ออกเป็นช่อที่ปลายยอด กลีบรองดอก 4 กลีบ รูปไข่ปลายแหลม กลีบดอก 4 กลีบ รูปค่อนข้างกลมหรือรี ขนาดกว้าง 1-2.5 ซม. ยาว 1.5-3 ซม. เกสรผู้สีม่วงมีจำนวนมาก ผลสีเทานวล รูปรี กว้าง 1.5-4.5 ซม. ยาว 2-6 ซม. เปลือกหนา ผิวขรุขระและเป็นขุย เมล็ดจำนวนมากสีน้ำตาลเข้ม รูปเกือกม้า
- ไม้ยืนต้นขนาดกว้าง สูง 4-15 ม. ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย 3 ใบ รูปหอกหรือรูปขอบขนาน กว้าง 1.5-6.5 ซม. ยาว 5-20 ซม. โคนใบสอบแคบและเบี้ยวเล็กน้อย ปลายใบเรียวแหลม ดอกสีขาวถึงสีเหลืองอ่อน ออกเป็นช่อที่ปลายยอด กลีบรองดอก 4 กลีบ รูปไข่ปลายแหลม กลีบดอก 4 กลีบ รูปค่อนข้างกลมหรือรี ขนาดกว้าง 1-2.5 ซม. ยาว 1.5-3 ซม. เกสรผู้สีม่วงมีจำนวนมาก ผลสีเทานวล รูปรี กว้าง 1.5-4.5 ซม. ยาว 2-6 ซม. เปลือกหนา ผิวขรุขระและเป็นขุย เมล็ดจำนวนมากสีน้ำตาลเข้ม รูปเกือกม้า
- ไม้ยืนต้นขนาดกว้าง สูง 4-15 ม. ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย 3 ใบ รูปหอกหรือรูปขอบขนาน กว้าง 1.5-6.5 ซม. ยาว 5-20 ซม. โคนใบสอบแคบและเบี้ยวเล็กน้อย ปลายใบเรียวแหลม ดอกสีขาวถึงสีเหลืองอ่อน ออกเป็นช่อที่ปลายยอด กลีบรองดอก 4 กลีบ รูปไข่ปลายแหลม กลีบดอก 4 กลีบ รูปค่อนข้างกลมหรือรี ขนาดกว้าง 1-2.5 ซม. ยาว 1.5-3 ซม. เกสรผู้สีม่วงมีจำนวนมาก ผลสีเทานวล รูปรี กว้าง 1.5-4.5 ซม. ยาว 2-6 ซม. เปลือกหนา ผิวขรุขระและเป็นขุย เมล็ดจำนวนมากสีน้ำตาลเข้ม รูปเกือกม้า
การกระจายพันธุ์ :
- จากอินเดีย จนถึงภูมิภาคอินโดจีน ในประเทศไทยพบขึ้นทุกภาค ตามริมธารน้ำบริเวณป่าดิบแล้งและป่าผลัดใบ ที่ระดับความสูง 30-700 ม. ออกดอกและติดผลช่วงเดือนธันวาคม-กันยายน
- จากอินเดีย จนถึงภูมิภาคอินโดจีน ในประเทศไทยพบขึ้นทุกภาค ตามริมธารน้ำบริเวณป่าดิบแล้งและป่าผลัดใบ ที่ระดับความสูง 30-700 ม. ออกดอกและติดผลช่วงเดือนธันวาคม-กันยายน
- จากอินเดีย จนถึงภูมิภาคอินโดจีน ในประเทศไทยพบขึ้นทุกภาค ตามริมธารน้ำบริเวณป่าดิบแล้งและป่าผลัดใบ ที่ระดับความสูง 30-700 ม. ออกดอกและติดผลช่วงเดือนธันวาคม-กันยายน
- จากอินเดีย จนถึงภูมิภาคอินโดจีน ในประเทศไทยพบขึ้นทุกภาค ตามริมธารน้ำบริเวณป่าดิบแล้งและป่าผลัดใบ ที่ระดับความสูง 30-700 ม. ออกดอกและติดผลช่วงเดือนธันวาคม-กันยายน
รายละเอียดอื่นๆ ของแหล่งที่พบ :
- พื้นที่ชุ่มน้ำหนองบงคาย
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ทะเลน้อย
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ทะเลสาบสงขลา
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ทะเลหลวง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดอยผาช้าง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดอยเวียงหล้า
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า น้ำปาด
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า น้ำปาด
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ลุ่มน้ำปาย
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เวียงลอ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรมหลวงชุมพร
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุ้มผาง
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา :
- กุ่มน้ำ ชื่อวิทยาศาสตร์: Crateva magna เป็นพืชในวงศ์ Capparidaceae เป็นไม้ยืนต้น ใบประกอบแบบนิ้วมือ ใบแห้งสีออกแดง ดอกช่อ กลีบสีขาวแล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ผลสีนวล มีเมล็ดมาก สีน้ำตาลเข้มรูปเกือกม้า เปลือกต้น เปลือกรากและกิ่งอ่อนถูกผิวหนังแล้วทำให้คัน รับประทานเข้าไปทำให้ปวดศีรษะ อาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- กุ่มน้ำ ชื่อวิทยาศาสตร์: Crateva magna เป็นพืชในวงศ์ Capparidaceae เป็นไม้ยืนต้น ใบประกอบแบบนิ้วมือ ใบแห้งสีออกแดง ดอกช่อ กลีบสีขาวแล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ผลสีนวล มีเมล็ดมาก สีน้ำตาลเข้มรูปเกือกม้า เปลือกต้น เปลือกรากและกิ่งอ่อนถูกผิวหนังแล้วทำให้คัน รับประทานเข้าไปทำให้ปวดศีรษะ อาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- กุ่มน้ำ ชื่อวิทยาศาสตร์: Crateva magna เป็นพืชในวงศ์ Capparidaceae เป็นไม้ยืนต้น ใบประกอบแบบนิ้วมือ ใบแห้งสีออกแดง ดอกช่อ กลีบสีขาวแล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ผลสีนวล มีเมล็ดมาก สีน้ำตาลเข้มรูปเกือกม้า เปลือกต้น เปลือกรากและกิ่งอ่อนถูกผิวหนังแล้วทำให้คัน รับประทานเข้าไปทำให้ปวดศีรษะ อาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- กุ่มน้ำ ชื่อวิทยาศาสตร์: Crateva magna เป็นพืชในวงศ์ Capparidaceae เป็นไม้ยืนต้น ใบประกอบแบบนิ้วมือ ใบแห้งสีออกแดง ดอกช่อ กลีบสีขาวแล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ผลสีนวล มีเมล็ดมาก สีน้ำตาลเข้มรูปเกือกม้า เปลือกต้น เปลือกรากและกิ่งอ่อนถูกผิวหนังแล้วทำให้คัน รับประทานเข้าไปทำให้ปวดศีรษะ อาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- กุ่มน้ำ ชื่อวิทยาศาสตร์: Crateva magna เป็นพืชในวงศ์ Capparidaceae เป็นไม้ยืนต้น ใบประกอบแบบนิ้วมือ ใบแห้งสีออกแดง ดอกช่อ กลีบสีขาวแล้วค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ผลสีนวล มีเมล็ดมาก สีน้ำตาลเข้มรูปเกือกม้า เปลือกต้น เปลือกรากและกิ่งอ่อนถูกผิวหนังแล้วทำให้คัน รับประทานเข้าไปทำให้ปวดศีรษะ อาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนแรง
การขยายพันธุ์ :
- 1. การเพาะเมล็ด
2. การปักชำ
3. การตอนกิ่ง
- 1. การเพาะเมล็ด
2. การปักชำ
3. การตอนกิ่ง
- 1. การเพาะเมล็ด
2. การปักชำ
3. การตอนกิ่ง
- 1. การเพาะเมล็ด
2. การปักชำ
3. การตอนกิ่ง
- 1. การเพาะเมล็ด
2. การปักชำ
3. การตอนกิ่ง
แหล่งที่พบภายในประเทศ :
- พัทลุง, นครศรีธรรมราช
- สงขลา, พัทลุง
- พัทลุง, สงขลา
- พะเยา, น่าน
- แม่ฮ่องสอน
- อุตรดิตถ์
- อุตรดิตถ์
- แม่ฮ่องสอน
- พะเยา
- ชุมพร
- ตาก
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกะมัง
ข้อมูลการนำไปใช้ประโยชน์
วัตถุประสงค์การนำมาใช้ประโยชน์ :
- อาหาร
ที่มาของข้อมูล