ข้อมูลเผยแพร่ประชาสัมพันธ์


ทำบุญมิติใหม่ เป็น “พ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่า” ร่วมอนุรักษ์ไว้ไม่ให้สูญพันธุ์


   กรมอุทยาน ฯ เชิญชวนผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือสัตว์ป่า ตาม “โครงการพ่อแม่อุปถัมภ์ฯ” ได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ธ.ค. 65 ใน 26  พื้นที่เลี้ยงสัตว์ป่าทั่วไทย  เพื่อร่วมอนุรักษ์สัตว์ป่าของไทยไว้ไม่ให้สูญพันธุ์
    นายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เปิดเผยว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จัดโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่าในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า และศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า เพื่อเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกได้มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาคุ้มครองทรัพยากรสัตว์ป่าของชาติให้คงอยู่ เพิ่มจิตสำนึกเน้นคุณค่าชีวิตสัตว์ป่า และปลูกฝังให้ประชาชนมีเมตตาต่อสัตว์ป่า รวมไปถึงเป็นการสนับสนุนการให้บริการหรือสงเคราะห์สัตว์ป่าให้ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องเหมาะสมเป็นไปตามหลักสุขาภิบาลสัตว์ตลอดอายุขัย
    ปัจจุบันกรมอุทยานแห่งชาติ ฯ มีความพยายามถนอมรักษาสัตว์ป่าชนิดต่างๆ ให้คงอยู่ไม่ให้สูญพันธุ์ โดยเป็นการดำเนินการอนุรักษ์ภายในถิ่นที่อยู่อาศัยในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั้ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติ  และป่าสงวนแห่งชาติ รวมไปถึงการดูแลสัตว์ป่าในกรงเลี้ยง  ซึ่งเป็นสัตว์ป่าที่ทำการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์เพื่อปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ สัตว์ป่าของกลางที่ได้รับมาจากการตรวจยึด จับกุม หรือสัตว์ป่าพลัดหลง  และสัตว์ป่าที่ได้รับส่งคืนจากผู้ได้รับใบอนุญาตครอบครอง  รวมไปถึงสัตว์ป่าจากการยกเลิกกิจการสวนสัตว์ ซึ่งสัตว์ป่าดังกล่าวอยู่ในความดูแลของสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า และศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า  ซึ่งนอกจากจะเป็นหน่วยงานที่รับดูแลสัตว์ป่าแล้ว ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาศึกษาและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สัตว์ป่าอีกด้วย
     อย่างไรก็ตามจึงขอเชิญหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กร มูลนิธิ บริษัท  กลุ่มบุคคล หรือบุคคลทั่วไป ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่าในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า และศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า โดยการโอนเงินบริจาคเข้าบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขน เลขที่บัญชี 980-216-5379 ชื่อบัญชีโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่าในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า เพื่อนำมาเป็นค่าอาหาร ค่าปรับปรุงซ่อมแซมกรงเลี้ยงหรือปรับภูมิทัศน์กรงเลี้ยง  ซึ่งการรับบริจาคดังกล่าวได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ  (กคร.) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565  ที่ผ่านมา และมีระยะเวลาการรับบริจาคถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565
    สำหรับสถานที่เลี้ยงสัตว์ป่าในโครงการมีทั้งสิ้น 26 แห่ง ได้แก่ 1.  สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าช่องกล่ำบน จังหวัดสระแก้ว 2.  สถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี 3. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางพระ จังหวัดชลบุรี 4. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง จังหวัดชลบุรี 5. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี 6. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน จังหวัดราชบุรี 7. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย จังหวัดเพชรบุรี 8. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา จังหวัดพังงา 9.  สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าโตนงาช้าง จังหวัดสงขลา 10. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพัทลุง จังหวัดพัทลุง 11. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าโคกไม้เรือ จังหวัดนราธิวาส 12. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ 13. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด
     14. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น 15. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ จังหวัดศรีสะเกษ 16. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี 17. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ 18. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าดอยตุง จังหวัดเชียงราย 19.  สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าแม่ลาว จังหวัดเชียงราย 20.  สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าแม่จัน จังหวัดเชียงราย 21.  สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าอมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ 22. สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยยางปาน จังหวัดเชียงใหม่ 23.  สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าปางตอง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 24. ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 (นครนายก) 25. ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) และ 26. ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 (ประทับช้าง)