ข้อมูลสิ่งมีชีวิต


วันที่อัพเดท : 12 มิ.ย. 2566 12:11 น.
วันที่สร้าง: 12 มิ.ย. 2566 12:11 น.
ข้อมูลทั่วไป
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
- ไม้ล้มลุก หลายปี ลำต้นเกลี้ยง แตกแขนงที่โคนต้น สูง 30-100 ซม. ใบ เดี่ยว เรียงสลับ อวบน้ำ รูปแถบหรือรูปขอบขนาน แผ่นใบยาว 0.5-4 ซม. กว้าง 0.5-1.5 มม. ปลายใบแหลม เมื่อแก่ ใบจะมีสีแดงหรือบริเวณที่แล้งจัดจะมีใบสีม่วง ช่อดอก แบบช่อแยกแขนง ออกที่ปลายยอด ยาว 4-15 ซม. ดอกสมบุรณ์เพศออกเป็นกระจุกๆละ2-3 ดอก ใบประดับ ยาว /2-5 มม. กลีบดอก 5 กลีบ รูปหอก วงกลีบรวม มี 2-3 ใบ รูปขอบขนานสีเขียวอ่อน ผลกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5-2.5 มม. เมล็ด กลม สีน้ำตาล ยาว 0.5-0.8 มม.
- ไม้ล้มลุกอายุหลายปี เมื่ออายุมากลำต้นจะมีเนื้อไม้ และพัฒนาเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงถึง 1 ม. ลำต้นเดี่ยว ทรงพุ่มแผ่กระจาย แตกกิ่งต่ำใกล้พื้นดิน และมักมีรากงอกตามข้อด้านล่าง ลำต้นแก่มีผิวหยาบขรุขระ ซึ่งเกิดจากรอยแผลใบ
ใบ เดี่ยว เรียงเวียนสลับเบียดกันแน่น แผ่นใบรูปแถบ ยาว 1-5 ซม. โคนใบสอบเป็นรูปลิ่ม ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม เส้นใบมองเห็นไม่ชัดเจน เนื้อใบอวบน้ำ ผิวใบเป็นฝ้านวล สีเขียวสด หรือสีเขียวอมม่วง ในฤดูแล้งจะเปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วงอ่อนคล้ายแต้มสี ก้านใบสั้นมาก
ดอก แบบช่อเชิงลดไร้ก้านแยกแขนง ออกตามปลายยอด ช่อดอกยาว 3-18 ซม. ประกอบด้วยกระจุกดอกย่อยจำนวนมาก แต่ละกระจุกมี 2-5 ดอก ดอกย่อยขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.1-0.25 ซม. ไม่มีก้านดอก ใบประดับอยู่ที่โคนช่อลักษณะคล้ายใบขนาดใหญ่ และขนาดจะเล็กลงไปทางปลายช่อ ใบประดับย่อยที่ฐานดอกมี 2-3 ใบ รูปขอบขนานปลายทู่ โปร่งใส และติดคงทน กลีบรวมโคนเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วยตื้น ปลายแยกเป็น 5 แฉก รูปไข่ สีเขียวหรือสีเขียวอมม่วง เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดตรงข้ามกับกลีบรวม รังไข่อยู่เหนือหรือวงกลีบรวม มี 1 ช่อง ภายในมีไข่อ่อน 1 เมล็ดออกดอกเกือบตลอดทั้งปี
ผล แบบผลแห้งไม่แตก รูปทรลม ขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.2-0.3 ซม. ห่หุ้มด้วยกลีบรวม และใบประดับ แต่ละผลมีเมล็ดรูปไต 1 เมล็ด ออกผลเกือบตลอดทั้งปี
- ไม้ล้มลุก หลายปี ลำต้นเกลี้ยง แตกแขนงที่โคนต้น สูง 30-100 ซม. ใบ เดี่ยว เรียงสลับ อวบน้ำ รูปแถบหรือรูปขอบขนาน แผ่นใบยาว 0.5-4 ซม. กว้าง 0.5-1.5 มม. ปลายใบแหลม เมื่อแก่ ใบจะมีสีแดงหรือบริเวณที่แล้งจัดจะมีใบสีม่วง ช่อดอก แบบช่อแยกแขนง ออกที่ปลายยอด ยาว 4-15 ซม. ดอกสมบุรณ์เพศออกเป็นกระจุกๆละ2-3 ดอก ใบประดับ ยาว /2-5 มม. กลีบดอก 5 กลีบ รูปหอก วงกลีบรวม มี 2-3 ใบ รูปขอบขนานสีเขียวอ่อน ผลกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5-2.5 มม. เมล็ด กลม สีน้ำตาล ยาว 0.5-0.8 มม.
การกระจายพันธุ์ :
- กระจายพันธุ์กว้างตั้งแต่ยุโรปถึงเอเชีย ในประเทศไทยพบที่จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี พบตามพื้นที่เปิดโล่ง ดินร่วน เค็ม หลังแนวป่าโกงกาง มักพบอยู่รวมกันเป็นกลุ่มประชากรขนาดใหญ่
- อเมริกาเหนือ ยุโรป แอฟริกาเหนือ เอเชีย และออสเตรเลีย
- กระจายพันธุ์กว้างตั้งแต่ยุโรปถึงเอเชีย ในประเทศไทยพบที่จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี พบตามพื้นที่เปิดโล่ง ดินร่วน เค็ม หลังแนวป่าโกงกาง มักพบอยู่รวมกันเป็นกลุ่มประชากรขนาดใหญ่
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา :
- ไม้พุ่ม (Shrub)
- ลำต้น มีลำต้นแตกกิ่งเป็นทรงพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นสูงประมาณ 0.3 – 1.5 เมตร ลำต้นอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่เต็มที่จะมีสีน้ำตาลอมแดงหรือสีแดงเรื่อ
ใบ มีลักษณะเป็นใบเลี้ยงเดี่ยวเรียงสลับเบียดแน่นยาว มีความยาวประมาณ 2 – 5 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2 – 5 มิลลิเมตร ใบอวบน้ำจะมีสีเขียวสด แต่ถ้าในฤดูแล้งจะเปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วงอ่อนๆ
ดอก มีขนาดเล็กเป็นดอกสมบูรณ์เพศออกดอกที่ปลายยอดเป็นช่อแขนงความยาวของช่อดอกประมาณ 5 – 15 เซนติเมตรแต่ละแขนงมีดอกย่อยเกาะกันเป็นกระจุก 3 – 5 ดอก ซ้อนกันตามความยาวของก้านช่อดอกมีใบประดับย่อยที่ฐานวงกลีบรวม มี 2-3 ใบ รูปขอบขนานมน มีวงกลีบรวม จำนวน 5 กลีบ หรือไม่มีเลย เกสรเพศผู้ติดตรงข้ามกับกลีบรวม มีจำนวนเท่ากับกลีบรวมหรือน้อยกว่า ก้านเกสรเพศผู้แยกจากกัน รังไข่ติดเหนือวงกลีบ มีช่องเดียว
ผล และเมล็ด มีรูปทรงกลมรี ขนาดเล็ก ขนาดผลประมาณ 2 มิลลิเมตร ผิวเรียบเปลือกผลอ่อนมีสีเขียวอมน้ำตาล ผลแก่มีสีน้ำตาล ด้านในผลประกอบด้วยเมล็ด 1 เมล็ดที่มีลักษณะกลมแบน ยาวประมาณ 0.5 – 0.8 มิลลิเมตร เปลือกเมล็ดมีสีน้ำตาลและเป็นมันวาว เมื่อเมล็ดแก่จะแตกออกเป็น 2 ซี่ ภายในมีเมล็ดแก่มีเมล็ดย่อยจำนวนมากเมื่อผลแก่จะแตกหลุดและปลิวไปตามลม และเมื่อตกในพื้นดินที่มีความชุมชื้นจะงอกขึ้นมาเป็นต้นใหม่
ราก มีลักษณะเป็นรากแก้ว เป็นรากที่งอกจากเมล็ดและหยั่งลึกลงไปในดินทางแนวดิ่งทำให้ต้นชะครามยืนต้นอยู่ได้และมีรากแขนงเป็นรากที่แตกแขนงจากรากแก้วแผ่ออกไปตามแนว นอกจากนั้นยังมีรากที่เกิดตามบริเวณข้อระดับต่ำของบริเวณลำต้นแก่ที่มีผิวหยาบ
- ลำต้น มีลำต้นแตกกิ่งเป็นทรงพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นสูงประมาณ 0.3 – 1.5 เมตร ลำต้นอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่เต็มที่จะมีสีน้ำตาลอมแดงหรือสีแดงเรื่อ
ใบ มีลักษณะเป็นใบเลี้ยงเดี่ยวเรียงสลับเบียดแน่นยาว มีความยาวประมาณ 2 – 5 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2 – 5 มิลลิเมตร ใบอวบน้ำจะมีสีเขียวสด แต่ถ้าในฤดูแล้งจะเปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วงอ่อนๆ
ดอก มีขนาดเล็กเป็นดอกสมบูรณ์เพศออกดอกที่ปลายยอดเป็นช่อแขนงความยาวของช่อดอกประมาณ 5 – 15 เซนติเมตรแต่ละแขนงมีดอกย่อยเกาะกันเป็นกระจุก 3 – 5 ดอก ซ้อนกันตามความยาวของก้านช่อดอกมีใบประดับย่อยที่ฐานวงกลีบรวม มี 2-3 ใบ รูปขอบขนานมน มีวงกลีบรวม จำนวน 5 กลีบ หรือไม่มีเลย เกสรเพศผู้ติดตรงข้ามกับกลีบรวม มีจำนวนเท่ากับกลีบรวมหรือน้อยกว่า ก้านเกสรเพศผู้แยกจากกัน รังไข่ติดเหนือวงกลีบ มีช่องเดียว
ผล และเมล็ด มีรูปทรงกลมรี ขนาดเล็ก ขนาดผลประมาณ 2 มิลลิเมตร ผิวเรียบเปลือกผลอ่อนมีสีเขียวอมน้ำตาล ผลแก่มีสีน้ำตาล ด้านในผลประกอบด้วยเมล็ด 1 เมล็ดที่มีลักษณะกลมแบน ยาวประมาณ 0.5 – 0.8 มิลลิเมตร เปลือกเมล็ดมีสีน้ำตาลและเป็นมันวาว เมื่อเมล็ดแก่จะแตกออกเป็น 2 ซี่ ภายในมีเมล็ดแก่มีเมล็ดย่อยจำนวนมากเมื่อผลแก่จะแตกหลุดและปลิวไปตามลม และเมื่อตกในพื้นดินที่มีความชุมชื้นจะงอกขึ้นมาเป็นต้นใหม่
ราก มีลักษณะเป็นรากแก้ว เป็นรากที่งอกจากเมล็ดและหยั่งลึกลงไปในดินทางแนวดิ่งทำให้ต้นชะครามยืนต้นอยู่ได้และมีรากแขนงเป็นรากที่แตกแขนงจากรากแก้วแผ่ออกไปตามแนว นอกจากนั้นยังมีรากที่เกิดตามบริเวณข้อระดับต่ำของบริเวณลำต้นแก่ที่มีผิวหยาบ
- ลำต้น มีลำต้นแตกกิ่งเป็นทรงพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นสูงประมาณ 0.3 – 1.5 เมตร ลำต้นอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่เต็มที่จะมีสีน้ำตาลอมแดงหรือสีแดงเรื่อ
ใบ มีลักษณะเป็นใบเลี้ยงเดี่ยวเรียงสลับเบียดแน่นยาว มีความยาวประมาณ 2 – 5 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2 – 5 มิลลิเมตร ใบอวบน้ำจะมีสีเขียวสด แต่ถ้าในฤดูแล้งจะเปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วงอ่อนๆ
ดอก มีขนาดเล็กเป็นดอกสมบูรณ์เพศออกดอกที่ปลายยอดเป็นช่อแขนงความยาวของช่อดอกประมาณ 5 – 15 เซนติเมตรแต่ละแขนงมีดอกย่อยเกาะกันเป็นกระจุก 3 – 5 ดอก ซ้อนกันตามความยาวของก้านช่อดอกมีใบประดับย่อยที่ฐานวงกลีบรวม มี 2-3 ใบ รูปขอบขนานมน มีวงกลีบรวม จำนวน 5 กลีบ หรือไม่มีเลย เกสรเพศผู้ติดตรงข้ามกับกลีบรวม มีจำนวนเท่ากับกลีบรวมหรือน้อยกว่า ก้านเกสรเพศผู้แยกจากกัน รังไข่ติดเหนือวงกลีบ มีช่องเดียว
ผล และเมล็ด มีรูปทรงกลมรี ขนาดเล็ก ขนาดผลประมาณ 2 มิลลิเมตร ผิวเรียบเปลือกผลอ่อนมีสีเขียวอมน้ำตาล ผลแก่มีสีน้ำตาล ด้านในผลประกอบด้วยเมล็ด 1 เมล็ดที่มีลักษณะกลมแบน ยาวประมาณ 0.5 – 0.8 มิลลิเมตร เปลือกเมล็ดมีสีน้ำตาลและเป็นมันวาว เมื่อเมล็ดแก่จะแตกออกเป็น 2 ซี่ ภายในมีเมล็ดแก่มีเมล็ดย่อยจำนวนมากเมื่อผลแก่จะแตกหลุดและปลิวไปตามลม และเมื่อตกในพื้นดินที่มีความชุมชื้นจะงอกขึ้นมาเป็นต้นใหม่
ราก มีลักษณะเป็นรากแก้ว เป็นรากที่งอกจากเมล็ดและหยั่งลึกลงไปในดินทางแนวดิ่งทำให้ต้นชะครามยืนต้นอยู่ได้และมีรากแขนงเป็นรากที่แตกแขนงจากรากแก้วแผ่ออกไปตามแนว นอกจากนั้นยังมีรากที่เกิดตามบริเวณข้อระดับต่ำของบริเวณลำต้นแก่ที่มีผิวหยาบ
- ลำต้น มีลำต้นแตกกิ่งเป็นทรงพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นสูงประมาณ 0.3 – 1.5 เมตร ลำต้นอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่เต็มที่จะมีสีน้ำตาลอมแดงหรือสีแดงเรื่อ
ใบ มีลักษณะเป็นใบเลี้ยงเดี่ยวเรียงสลับเบียดแน่นยาว มีความยาวประมาณ 2 – 5 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2 – 5 มิลลิเมตร ใบอวบน้ำจะมีสีเขียวสด แต่ถ้าในฤดูแล้งจะเปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วงอ่อนๆ
ดอก มีขนาดเล็กเป็นดอกสมบูรณ์เพศออกดอกที่ปลายยอดเป็นช่อแขนงความยาวของช่อดอกประมาณ 5 – 15 เซนติเมตรแต่ละแขนงมีดอกย่อยเกาะกันเป็นกระจุก 3 – 5 ดอก ซ้อนกันตามความยาวของก้านช่อดอกมีใบประดับย่อยที่ฐานวงกลีบรวม มี 2-3 ใบ รูปขอบขนานมน มีวงกลีบรวม จำนวน 5 กลีบ หรือไม่มีเลย เกสรเพศผู้ติดตรงข้ามกับกลีบรวม มีจำนวนเท่ากับกลีบรวมหรือน้อยกว่า ก้านเกสรเพศผู้แยกจากกัน รังไข่ติดเหนือวงกลีบ มีช่องเดียว
ผล และเมล็ด มีรูปทรงกลมรี ขนาดเล็ก ขนาดผลประมาณ 2 มิลลิเมตร ผิวเรียบเปลือกผลอ่อนมีสีเขียวอมน้ำตาล ผลแก่มีสีน้ำตาล ด้านในผลประกอบด้วยเมล็ด 1 เมล็ดที่มีลักษณะกลมแบน ยาวประมาณ 0.5 – 0.8 มิลลิเมตร เปลือกเมล็ดมีสีน้ำตาลและเป็นมันวาว เมื่อเมล็ดแก่จะแตกออกเป็น 2 ซี่ ภายในมีเมล็ดแก่มีเมล็ดย่อยจำนวนมากเมื่อผลแก่จะแตกหลุดและปลิวไปตามลม และเมื่อตกในพื้นดินที่มีความชุมชื้นจะงอกขึ้นมาเป็นต้นใหม่
ราก มีลักษณะเป็นรากแก้ว เป็นรากที่งอกจากเมล็ดและหยั่งลึกลงไปในดินทางแนวดิ่งทำให้ต้นชะครามยืนต้นอยู่ได้และมีรากแขนงเป็นรากที่แตกแขนงจากรากแก้วแผ่ออกไปตามแนว นอกจากนั้นยังมีรากที่เกิดตามบริเวณข้อระดับต่ำของบริเวณลำต้นแก่ที่มีผิวหยาบ
- ลำต้น มีลำต้นแตกกิ่งเป็นทรงพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นสูงประมาณ 0.3 – 1.5 เมตร ลำต้นอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่เต็มที่จะมีสีน้ำตาลอมแดงหรือสีแดงเรื่อ
ใบ มีลักษณะเป็นใบเลี้ยงเดี่ยวเรียงสลับเบียดแน่นยาว มีความยาวประมาณ 2 – 5 เซนติเมตร กว้างประมาณ 2 – 5 มิลลิเมตร ใบอวบน้ำจะมีสีเขียวสด แต่ถ้าในฤดูแล้งจะเปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วงอ่อนๆ
ดอก มีขนาดเล็กเป็นดอกสมบูรณ์เพศออกดอกที่ปลายยอดเป็นช่อแขนงความยาวของช่อดอกประมาณ 5 – 15 เซนติเมตรแต่ละแขนงมีดอกย่อยเกาะกันเป็นกระจุก 3 – 5 ดอก ซ้อนกันตามความยาวของก้านช่อดอกมีใบประดับย่อยที่ฐานวงกลีบรวม มี 2-3 ใบ รูปขอบขนานมน มีวงกลีบรวม จำนวน 5 กลีบ หรือไม่มีเลย เกสรเพศผู้ติดตรงข้ามกับกลีบรวม มีจำนวนเท่ากับกลีบรวมหรือน้อยกว่า ก้านเกสรเพศผู้แยกจากกัน รังไข่ติดเหนือวงกลีบ มีช่องเดียว
ผล และเมล็ด มีรูปทรงกลมรี ขนาดเล็ก ขนาดผลประมาณ 2 มิลลิเมตร ผิวเรียบเปลือกผลอ่อนมีสีเขียวอมน้ำตาล ผลแก่มีสีน้ำตาล ด้านในผลประกอบด้วยเมล็ด 1 เมล็ดที่มีลักษณะกลมแบน ยาวประมาณ 0.5 – 0.8 มิลลิเมตร เปลือกเมล็ดมีสีน้ำตาลและเป็นมันวาว เมื่อเมล็ดแก่จะแตกออกเป็น 2 ซี่ ภายในมีเมล็ดแก่มีเมล็ดย่อยจำนวนมากเมื่อผลแก่จะแตกหลุดและปลิวไปตามลม และเมื่อตกในพื้นดินที่มีความชุมชื้นจะงอกขึ้นมาเป็นต้นใหม่
ราก มีลักษณะเป็นรากแก้ว เป็นรากที่งอกจากเมล็ดและหยั่งลึกลงไปในดินทางแนวดิ่งทำให้ต้นชะครามยืนต้นอยู่ได้และมีรากแขนงเป็นรากที่แตกแขนงจากรากแก้วแผ่ออกไปตามแนว นอกจากนั้นยังมีรากที่เกิดตามบริเวณข้อระดับต่ำของบริเวณลำต้นแก่ที่มีผิวหยาบ
การขยายพันธุ์ :
- การขยายพันธ์นั้นใช้การปักชำ
- การขยายพันธ์นั้นใช้การปักชำ
- การขยายพันธ์นั้นใช้การปักชำ
- การขยายพันธ์นั้นใช้การปักชำ
- การขยายพันธ์นั้นใช้การปักชำ