ข้อมูลสิ่งมีชีวิต


วันที่อัพเดท : 12 มิ.ย. 2566 12:11 น.
วันที่สร้าง: 12 มิ.ย. 2566 12:11 น.
ข้อมูลทั่วไป
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
- ไม้ต้น สูง 16 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดกลมหรือรี เปลือกเรียบหรือแตกเป็นสะเก็ดสีน้ำตาลปนเทา กิ่งมีขนยาวสีน้ำตาลแดงหนาแน่น ใบ ประกอบแบบขนนกชั้นเดียว ปลายคู่ เรียงเวียนสลับ ใบย่อย 3-9 คู่ รูปไข่หรือรูปใบหอกแกมรูปไข่กลับ ปลายใบป้านถึงเรียวแหลม โคนใบมนถึงรูปลิ่มกว้าง ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนามีขนนุ่มสีน้ำตาล ดอก สีขาวอมเหลือง มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงตามปลายกิ่ง ดอกแยกเพศร่วมต้น กลีบเลี้ยงรูปไข่กว้างเกือบกลม กลีบดอก 4-5 กลีบ รูปไข่กลับ มีก้านกลีบสั้นๆ ปลายก้านมีเกล็ดและมีสัน 2 สัน รูปคล้ายกระบอง ปลายมีขนยาว จานฐานดอกเป็นวง ผล แบบผลผนังชั้นใน แข็ง มีเนื้อ เมล็ดเดียว รูปกลมรี สีม่วงเข้มหรือดำ แยกเป็น 2 พู ผิวเกลี้ยง เมล็ดกลมรีสีน้ำตาลมัน
- ไม้ต้น สูง 2-3 เมตร ใบ เดี่ยว เรียงสลับ แผ่นใบรูปรี ถึงรูปไข่กลับ ผิวใบเกลี้ยง ปลายใบมน ดอก ขนาดเล็กสีเขียวอ่อน แยกเพศอยู่ต้นเดียวกัน ออกเป็นกระจุกตามง่ามใบ ผล แก่สีชมพูถึงแดง ผลกลมแป้น มี 10-12 พู แตกเมื่อแห้ง
- ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก สูงได้ถึง 10 เมตร ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยมี 3-6 คู่ รูปไข่ถึงรูปไข่กลับ กว้าง 2-11 ซม. ยาว 3-30 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ผิวใบ มีขน ดอก สีขาวถึงสีเหลืองอ่อนๆ ออกเป็นช่อตั้งจากปลายยอด หรือซอกใบ ยาวถึง 50 ซม. มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกย่อย ขนาดเล็ก แยกเพศ กลีบรองดอก 5 กลีบ กลีบดอก 4 (-5) กลีบ เกลี้ยงหรือมีขนนุ่ม โคนกลีบแคบ มีขนและมีเกล็ดเล็กๆ 2 เกล็ด เกสรผู้ 8 อัน ผล รูปรีเว้าเป็นพู ผิวเกลี้ยง ผลอ่อนสีเขียว แล้วเปลี่ยน เป็นสีเหลืองแดงจนแก่จัดสีม่วงดำ เมล็ดสีน้ำตาลดำ ไม่มีเนื้อหุ้ม
- ไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็ก สูงได้ถึง 10 เมตร ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยมี 3-6 คู่ รูปไข่ถึงรูปไข่กลับ กว้าง 2-11 ซม. ยาว 3-30 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ผิวใบ มีขน ดอก สีขาวถึงสีเหลืองอ่อนๆ ออกเป็นช่อตั้งจากปลายยอด หรือซอกใบ ยาวถึง 50 ซม. มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกย่อย ขนาดเล็ก แยกเพศ กลีบรองดอก 5 กลีบ กลีบดอก 4 (-5) กลีบ เกลี้ยงหรือมีขนนุ่ม โคนกลีบแคบ มีขนและมีเกล็ดเล็กๆ 2 เกล็ด เกสรผู้ 8 อัน ผล รูปรีเว้าเป็นพู ผิวเกลี้ยง ผลอ่อนสีเขียว แล้วเปลี่ยน เป็นสีเหลืองแดงจนแก่จัดสีม่วงดำ เมล็ดสีน้ำตาลดำ ไม่มีเนื้อหุ้ม
- ไม้ต้น สูง 16 เมตร ไม่ผลัดใบ เรือนยอดกลมหรือรี เปลือกเรียบหรือแตกเป็นสะเก็ดสีน้ำตาลปนเทา กิ่งมีขนยาวสีน้ำตาลแดงหนาแน่น
ใบ : ประกอบแบบขนนกชั้นเดียว ปลายคู่ เรียงเวียนสลับ ใบย่อย 3-9 คู่ รูปไข่หรือรูปใบหอกแกมรูปไข่กลับ ปลายใบป้านถึงเรียวแหลม โคนใบมนถึงรูปลิ่มกว้าง ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนามีขนนุ่มสีน้ำตาล
ดอก : สีขาวอมเหลือง มีกลิ่นหอม ออกเป็นช่อแบบช่อแยกแขนงตามปลายกิ่ง ดอกแยกเพศร่วมต้น กลีบเลี้ยงรูปไข่กว้างเกือบกลม กลีบดอก 4-5 กลีบ รูปไข่กลับ มีก้านกลีบสั้นๆ ปลายก้านมีเกล็ดและมีสัน 2 สัน รูปคล้ายกระบอง ปลายมีขนยาว จานฐานดอกเป็นวง
ผล : แบบผลผนังชั้นใน แข็ง มีเนื้อ เมล็ดเดียว รูปกลมรี สีม่วงเข้มหรือดำ แยกเป็น 2 พู ผิวเกลี้ยง เมล็ดกลมรีสีน้ำตาลมัน
- ไม้พุ่มหรือไม้ต้น สูงถึง 16 เมตร กิ่งแขนงรูปทรงกระบอกเป็นร่อง เมื่อยังอ่อนอยู่มีขนสั้นๆ ใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ เรียงเวียนสลับ ใบย่อยรูปรีถึงรูปใบหอก ปลายใบมนถึงแหลมหรือเรียวแหลม โคนใบกลมหรือรูปลิ่มกว้าง ดอกสีขาวหรือแกมเหลือง ออกเป็นช่อกระจุกรวมเป็นช่อใหญ่ที่ปลายกิ่ง กลิ่นหอม กลีบเลี้ยง 4-5 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ ผลเมล็ดแข็ง มี 1-3 พู เมื่อสุกสีม่วงเข้มถึงเกือบดำ เมล็ดรูปทรงรีแกมขอบขนาน
- เป็นไม้พุ่มผลัดใบหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีความสูงของต้นประมาณ 5-10 เมตรและสูงได้ถึง 15 เมตร ทรงพุ่มกลมหรือเป็นรูปไข่ เปลือกต้นเป็นสีน้ำตาล แตกเป็นร่องตามยาว กิ่งแขนงเป็นรูปทรงกระบอกเป็นร่อง ที่กิ่งก้านมีขนละเอียด เมื่อยังอ่อนอยู่จะมีขนสั้นๆ เจริญเติบโตได้ดีในดินแทบทุกชนิด ชอบดินทุกชนิดที่ระบายน้ำได้ดี ชอบแสงแดดจัด
ระบบนิเวศ :
- พบกระจายพันธุ์ทั่วทุกภาคของประเทศ ขึ้นตามป่าผลัดใบ ดิบแล้ง ชายป่า ริมลำธาร ระดับความสูง 300-1,200 เมตร
- พบตามที่น้ำกร่อย บริเวณป่าพรุน้ำกร่อย แต่สามารถขึ้นได้ดีตามป่าโปร่ง ป่าดิบ ที่ราบเชิงเขา
แหล่งที่พบภายในประเทศ :
- สมุทรปราการ
- สมุทรปราการ
- อุตรดิตถ์,แพร่
- สมุทรปราการ
- สระบุรี
- สระบุรี
- สุราษฎร์ธานี
- ราชบุรี
- สระบุรี
- จันทบุรี
- อุทัยธานี
- นครราชสีมา
- นครราชสีมา
- ระนอง
- กาญจนบุรี
- อุบลราชธานี
- เพชรบูรณ์
- เพชรบูรณ์
- พังงา
- พังงา
- กำแพงเพชร
- ชัยภูมิ
- สตูล
- เพชรบูรณ์, พิษณุโลก
- สระบุรี
- สระแก้ว
- สุพรรณบุรี
- เลย
- เลย
- ขอนแก่น
- กาญจนบุรี
- ตรัง, สตูล
- กาญจนบุรี
- ชลบุรี
- กำแพงเพชร
- จันทบุรี
- ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, สระแก้ว
- ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, สระแก้ว
- ลพบุรี
- บุรีรัมย์
- พะเยา, น่าน
- พะเยา, น่าน
- ชัยภูมิ, เพชรบูรณ์
- พังงา
- กาญจนบุรี, ตาก
- กาญจนบุรี, ตาก
- กาญจนบุรี, ตาก
- อุตรดิตถ์
- อุบลราชธานี
- พิษณุโลก
- ชัยภูมิ
- ชัยภูมิ
- ชัยภูมิ
- เลย
- พิษณุโลก
- บึงกาฬ
- อุตรดิตถ์
- ตาก
- ราชบุรี
- อุบลราชธานี
- อุบลราชธานี
- พะเยา
- พะเยา
- กาญจนบุรี
- อุทัยธานี, กาญจนบุรี, ตาก
- สุรินทร์
- ศรีสะเกษ
- อุทัยธานี, กาญจนบุรี, ตาก
- สุรินทร์
- ศรีสะเกษ
- ชุมพร
- ตาก
- ตาก
- ตาก
- ลำปาง
- สมุทรปราการ
- หนองคาย
- ป่าชุมชนอาลอ-โดนแบน
- ป่าชุมชนอาลอ-โดนแบน
รายละเอียดอื่นๆ ของแหล่งที่พบ :
- บางกระเจ้า
- บางกระเจ้า
- พื้นที่ชุ่มน้ำหนองบงคาย
- อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ อำเภอลับแล อุตรดิตถ์, อำเภอวังชิ้น อำเภอเด่นชัย แพร่
- พื้นที่คุ้งบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่าแก่งคอย
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่าแก่งคอย
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขาท่าเพชร
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขาประทับช้าง
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า เขาวงจันแดง
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า คุ้งกระเบน
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ถ้ำประทุน
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าเขาภูหลวง
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าเขาภูหลวง
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า ป่าเลนคลองม่วงกลวง
- เขตห้ามล่าสัตว์ป่า อุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์กาญจนบุรี
- อุทยานแห่งชาติ แก่งตะนะ
- อุทยานแห่งชาติ เขาค้อ
- อุทยานแห่งชาติ เขาค้อ
- อุทยานแห่งชาติ เขาลำปี-หาดท้ายเหมือง
- อุทยานแห่งชาติ เขาลำปี-หาดท้ายเหมือง
- อุทยานแห่งชาติ คลองลาน
- อุทยานแห่งชาติ ตาดโตน
- อุทยานแห่งชาติ ทะเลบัน
- อุทยานแห่งชาติ ทุ่งแสลงหลวง
- อุทยานแห่งชาติ น้ำตกสามหลั่น
- อุทยานแห่งชาติ ปางสีดา
- อุทยานแห่งชาติ พุเตย
- อุทยานแห่งชาติ ภูกระดึง
- อุทยานแห่งชาติ ภูกระดึง
- อุทยานแห่งชาติ ภูเวียง
- อุทยานแห่งชาติ ลำคลองงู
- อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะเภตรา
- อุทยานแห่งชาติ เอราวัณ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาเขียว-เขาชมภู่
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาสนามเพรียง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาสอยดาว
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาอ่างฤาไน
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขาอ่างฤาไน
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซับลังกา
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดงใหญ่
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดอยผาช้าง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ดอยผาช้าง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ตะเบาะ-ห้วยใหญ่
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โตนปริวรรต
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวร
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า น้ำปาด
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า บุณฑริก-ยอดมน
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูขัด
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูเขียว
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูเขียว
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูเขียว
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูค้อ-ภูกระแต
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูเมี่ยง-ภูทอง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ภูวัว
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่จริม
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่ตื่น
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่น้ำภาชี
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ยอดโดม
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ยอดโดม
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เวียงลอ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เวียงลอ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า สลักพระ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยขาแข้ง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยศาลา
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยขาแข้ง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้วยศาลา
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุทยานเสด็จในกรมหลวงชุมพร
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุ้มผาง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุ้มผาง
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า อุ้มผาง
- บริเวณโดยรอบโรงไฟฟ้าและเหมืองแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง
- บริเวณโดยรอบโรงไฟฟ้าพระนครใต้ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
- ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู หนองคาย
- สุรินทร์
- สุรินทร์
การกระจายพันธุ์ :
- นิเวศวิทยา อินเดีย เอเชียตะวันออก เฉียงใต้ ประเทศไทยพบทุกภาค ตามป่าผลัดใบ ริมลำธารหรือ ชายป่าชื้น ที่ระดับความสูงถึง 1,200 เมตร ออกดอกและติดผลตลอดปี
- นิเวศวิทยา อินเดีย เอเชียตะวันออก เฉียงใต้ ประเทศไทยพบทุกภาค ตามป่าผลัดใบ ริมลำธารหรือ ชายป่าชื้น ที่ระดับความสูงถึง 1,200 เมตร ออกดอกและติดผลตลอดปี
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา :
- ไม้พุ่มหรือไม้ต้น สูงได้ถึง 15 ม. มีขนยาวหนาแน่นตามกิ่ง แผ่นใบด้านล่าง ช่อดอก ใบประดับ และกลีบเลี้ยง ใบประกอบปลายคู่ เรียงเวียน ใบย่อยส่วนมากมี 2-6 คู่ รูปไข่ รูปไข่กลับ หรือแกมรูปขอบขนาน ยาวได้ถึง 30 ซม. ก้านใบสั้น ช่อดอกยาวได้ถึง 50 ซม. ก้านดอกสั้น กลีบเลี้ยงรูปไข่กว้างเกือบกลม ยาว 1-2.5 มม. ดอกสีขาวอมเหลือง กลีบดอกรูปไข่กลับ ยาว 2-5 มม. เกล็ดที่ปลายกลีบมีขนเครา ก้านชูอับเรณูยาว 1.5-5 มม. มีขนยาว รังไข่มี 3 ช่อง ผลจัก 3 พู รูปรีแคบ ยาว 0.8-1.3 ซม. ไร้ก้าน สีเขียว เปลี่ยนเป็นสีส้มหรือแดง สุกสีม่วงหรือดำ เมล็ดยาวประมาณ 1 ซม. ขั้วเมล็ดขนาดเล็ก
- ไม้พุ่มหรือไม้ต้น สูงได้ถึง 15 ม. มีขนยาวหนาแน่นตามกิ่ง แผ่นใบด้านล่าง ช่อดอก ใบประดับ และกลีบเลี้ยง ใบประกอบปลายคู่ เรียงเวียน ใบย่อยส่วนมากมี 2-6 คู่ รูปไข่ รูปไข่กลับ หรือแกมรูปขอบขนาน ยาวได้ถึง 30 ซม. ก้านใบสั้น ช่อดอกยาวได้ถึง 50 ซม. ก้านดอกสั้น กลีบเลี้ยงรูปไข่กว้างเกือบกลม ยาว 1-2.5 มม. ดอกสีขาวอมเหลือง กลีบดอกรูปไข่กลับ ยาว 2-5 มม. เกล็ดที่ปลายกลีบมีขนเครา ก้านชูอับเรณูยาว 1.5-5 มม. มีขนยาว รังไข่มี 3 ช่อง ผลจัก 3 พู รูปรีแคบ ยาว 0.8-1.3 ซม. ไร้ก้าน สีเขียว เปลี่ยนเป็นสีส้มหรือแดง สุกสีม่วงหรือดำ เมล็ดยาวประมาณ 1 ซม. ขั้วเมล็ดขนาดเล็ก
- ใบ - เป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ เรียงเวียนสลับ แก่นกลางใบประกอบยาวประมาณ 10-30 เซนติเมตร มีใบย่อยประมาณ 3-6 คู่ ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปไข่ถึงรูปไข่กลับ ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2-11 เซนติเมตร และยาวประมาณ 3-30 เซนติเมตร แผ่นใบเป็นสีเขียวเข้ม ผิว
ใบด้านล่างมีสีอ่อนกว่า ผิวใบมีขนนุ่มปกคลุมอยู่ทั้งสองด้าน แผ่นใบบางแต่ค่อนข้างเหนียวและย่นเป็นรอย ส่วนใบอ่อนมีสีน้ำตาลอมเขียว
ดอก - เป็นสีขาวถึงสีเหลืองอ่อนๆ ออกดอกเป็นช่อแบบแยกแขนงตั้งจากปลายยอดหรือซอกใบใกล้ปลายยอด มีความยาวถึง 50 เซนติเมตร ดอกย่อยเป็นสีขาวมีขนาดเล็กและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ดอกเป็นแบบแยกเพศ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.8-1 เซนติเมตร มีกลีบดอก 4-5 กลีบ เกลี้ยงหรือมีขน กลีบดอกเป็นสีขาว โคนกลีบแคบ มีขนและมีเกล็ดเล็ก 1 เกล็ด ที่มีสันนูน 2 สัน ดอกมีเกสรเพศผู้ 8 ก้าน ก้านเกสรมีขนสีน้ำตาลอ่อนๆ ส่วนก้านเกสรเพศเมียยาวและไม่มีขน ส่วนกลีบเลี้ยงดอกมี 5 กลีบ ลักษณะของกลีบเป็นรูปครึ่งวงกลม กลีบนอก 2 กลีบจะเล็กกว่ากลีบในและมีขนที่ด้านนอก โดยจะออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม
ผล - เป็นผลสดแบบมีเนื้อ ลักษณะของผลเป็นรูปรีเว้าเป็นพู ผิวผลเกลี้ยง ผลมีขนาดกว้างประมาณ 0.5-1 เซนติเมตรและยาวประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร ผลมีพู 2 พู ผิวเกลี้ยงเปลือกและเนื้อบาง ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองแดง และจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงดำเมื่อแก่จัด เนื้อผลฉ่ำน้ำมีรสหวานใช้รับประทานได้ ภายในผลมีเมล็ดสีน้ำตาลดำเป็นมัน 1 เมล็ด ลักษณะของเมล็ดมะหวดเป็นรูปทรงรีแกมรูปขอบขนาน โดยจะติดผลช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม
การขยายพันธุ์ :
- การเพาะเมล็ดและการทำกิ่งตอน
- การเพาะเมล็ดและการทำกิ่งตอน
ข้อมูลการนำไปใช้ประโยชน์
ส่วนของตัวอย่างที่นำมาใช้ :
- ราก ใบ ผล เมล็ด
วัตถุประสงค์การนำมาใช้ประโยชน์ :
- สมุนไพร
รายละเอียดการนำมาใช้ประโยชน์ :
- ราก : แก้ไข แก้พิษภายใน ตำพอกศีรษะแก้ไข้ ปวดศีรษะ พอกรักษาโรค ผิวหนัง ผื่นคัน ต้มน้ำดื่มแก้ซาง ใบ : รองพื้นและคลุมข้าวสำหรับทำขนมจีนเพื่อกันบูด ผล : บำรุงกำลัง เมล็ด : แก้โรคไอหอบ ไข้ซางเด็ก ไอกรน
- ใบอ่อนรับประทานแทนผัก ผลมีรสหวาน รับประทานได้ ราก แก้ไข้ แก้พิษฝีภายใน ศีรษะแก้ไข้ ปวดศีรษะและพอกรักษาโรคผิวหนังผื่นคันเมล็ด แก้โรคไอหอบ ไข้ซางเด็ก
สถานภาพการคุกคาม
สถานภาพการคุกคาม (โลก) :
- สิ่งมีชีวิตที่มีสถานภาพเป็นกังวลน้อยที่สุด Least Concern: LC (IUCN, 2019)
ที่มาของข้อมูล
พิพิธภัณฑ์
Barcode ชื่อพิพิธภัณฑ์ จังหวัด ลักษณะ
Barcode ชื่อพิพิธภัณฑ์ จังหวัด ลักษณะ